หากใครที่ตามวงการเพลง T-POP ในช่วงปี 60-61 คงจะพอคุ้นๆ ชื่อของเกิร์ลกรุ๊ปวง SO-M และ กลุ่มศิลปินชายหญิง D.U.S.T ก่อนที่ทั้ง 2 วงจะยุบตัวแยกย้ายกันไป ซึ่งมาใน พ.ศ.นี้ สองสาวพี่น้อง "มิลค์-ณัฐชยา สุรังค์กาญจนจัย" และ "มายด์-ณัฐนิชา สุรังค์กาญจนจัย" อดีตสมาชิกทั้ง 2 วง ได้กลับมาสานความฝันจับไมค์ร้องเพลงอีกครั้ง ในนาม SIStory's กับค่าย POP Ever Entainment พร้อมปล่อยซิงเกิลแรก "ทักมารักกัน" ที่เจ้าตัวบอกกับ MGR Exclusive ว่า นี่แหละคือการ "ขายตรง"
มายด์ ณัฐนิชา : คือจริงๆ แล้วก็ไม่เชิงว่าหายไปเลย แต่เหมือนกับว่าเราก็แอบทำอยู่เงียบๆ เพราะว่าตอนที่จบจาก D.U.S.T งานสุดท้ายตอนนั้นเราก็เริ่มเปิดช่องยูทูปของตัวเองเป็นของ 2 คนที่เริ่มทำจริงๆ จังๆ แล้วก็กลับมาหา "ครูเจ-ธนิก จุติธรรมวุฒิ" เจ้าของ EBO Voice Studio มาเรียนร้องเพลงอีกรอบนึง แล้ว "ครูเจ" ก็ชวนมาทำดูโอ้ 2 คน ชวนมาอยู่ค่ายเดียวกัน เริ่มทำมาก็ค่อนข้างนาน จริงๆ ก็ตั้งแต่ปลายปี 2562 แต่ว่าก็ทำมาเงียบๆ แล้วก็ติดช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดพอดี ก็เลยเลื่อนการปล่อยซิงเกิลออกมา
ที่มาของชื่อวง SIStory's?
มิลค์ ณัฐชยา : จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นชื่อที่เรานำมาจากช่องยูทูป เหมือนเราอยากจะทำเสนอภาพลักษณ์ของพี่น้องสองคน อยากจะแบ่งปันเรื่องราวการมีพี่น้อง การใช้ชีวิตร่วมกัน การทำกิจกรรมร่วมกันอะไรอย่างนี้ ก็เลยเป็นที่มาของคำว่า "ซิสเตอร์" บวกกับ "สตอรี่" รวมกันเป็น SIStory's
มายด์ ณัฐนิชา : ตอนแรกคิดว่าจะตั้งชื่อใหม่แต่ก็กลัวว่าคนจะสับสนหรือเปล่าเพราะเราก็ใช้ชื่อ SIStory's ในยูทูปมาสักพักแล้วด้วย ก็เลยคิดว่า ถ้าใช้ชื่อเดียวกันไปเลยก็น่าจะจำง่ายและก็เป็นอันเดียวกันไปเลย
เหมือนการเป็น "ยูทูปเบอร์" ทำให้เราได้กลับมาทำเพลงอีกครั้ง?
มายด์ ณัฐนิชา : ก็ไม่เชิง เพราะว่าตอนที่เราออกจาก D.U.S.T ตอนที่ยุบวงนั้นก็ยังอยากทำต่อ จริงๆ ก็หาค่าย หาวิธีว่าจะทำต่อยังไงดี ทำยังไงเราถึงจะสามารถอยู่ในวงการเพลงต่อไปได้ ก็เรียกได้ว่าเหมือนเป็นช่องว่างที่ตอนนั้นยังไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เลยทำช่องยูทูปไปก่อนแล้วกัน ก็เหมือนเป็นการนำเสนอตนเองไปอีกแบบนึง ให้คนได้รู้จักเพิ่มขึ้น
จนมาลงตัวที่ SIStory's ?
มายด์ ณัฐนิชา : ใช่ จริงๆ แล้วทาง "ครูเจ" ทางค่าย POP Ever Entainment ค่อนข้างจะแล้วแต่พวกเราพอสมควร (หัวเราะ) เหมือนแบบว่าอยากให้ออกมาเป็นตัวพวกเรามากที่สุด อยากให้ดูเป็นธรรมชาติด้วย
และได้ทำซิงเกิลแรก "ทักมารักกัน"
มายด์ ณัฐนิชา : เรียกได้ว่าทำทุกอย่าง (หัวเราะ) ตั้งแต่คอนเซปท์เพลง เนื้อหาเพลง จนกระทั่งการออกแบบท่าเต้น หรือแนวมิวสิควิดีโอ ก็เรียกว่ามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนจริงๆ เนื้อเพลงก็มาจากตัวพวกเรา 2 คน โดยตรงเลย เพราะว่าพี่โปรดิวเซอร์ก็ถามว่าอยากได้เพลงเป็นยังไง เนื้อหายังไง เพราะว่าตอนแรกพี่เค้าก็เหมือนอยากได้คำสำคัญสักคำนึงที่ออกมาจากตัวเรา คือเขาอยากให้เป็นภาษาของเรามากที่สุด ไม่อยากให้เราลองแล้วรู้สึกขัด หรืออะไรอย่างนี้ เฉพาะนั้นก็เรียกได้ว่า ทุกอย่าง (หัวเราะ) ค่อนข้างทุกขั้นตอนเลย
มิลค์ ณัฐชยา : จากคอนเซปท์เพลงที่เราได้คุยกับโปรดิวเซอร์ เราก็ได้คอนเซปท์ออกมาประมาณว่า คือเพลงเนี่ยมาจากตัวพวกเราเอง เพราะว่าจะชอบมาคนมาพูดกับเรา 2 คนว่าทำไมยังไม่มีแฟน ไม่มีแฟนจริงเหรอ ทำไมไม่มีคนเข้ามาจีบ แล้วทุกคนก็จะบอกเหมือนประมาณว่า คิดว่ามีแฟนอยู่แล้วไม่กล้าเข้ามาจีบ เราก็เลยรู้สึกว่าอยากทำคอนเซปท์นี้ขึ้นมา
"เป็นประมาณว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาทักอะ แล้วเราจะได้รักกันมั้ยล่ะอะไรอย่างนี้ เพราะฉันก็โสดนะ แต่แบบเขาไม่กล้าเข้ามาทักกับเราเองก็เลยเป็นที่มาของเพลงๆ นี้ (หัวเราะ) เป็นการขายตรง เพื่อทุกๆ คน (หัวเราะ) มิลค์รู้ว่าทุกคนก็มีความรู้สึกนี้อยู่ในใจ"
มายด์ ณัฐนิชา : เชื่อว่าผู้หญิงหลายๆ คนจะต้องประสบพบเจอเหตุการณ์นี้แน่นอน
พี่น้องทำงานด้วยกันมีขัดแย้งกันบ้างมั้ย?
มิลค์ ณัฐชยา : ไม่ค่อยมีเลย เพราะว่าเราเหมือนเป็นพี่น้องที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
มายด์ ณัฐนิชา : ใช่ ส่วนใหญ่ก็จะคิดอะไรคล้ายๆ กันตลอดเวลา ก็เลยจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกันเท่าไหร่
การเป็นครูสอนเต้นช่วยให้ SIStory's สมบูรณ์ขึ้น
มายด์ ณัฐนิชา : ช่วยได้เยอะมาก
มิลค์ ณัฐชยา : ใช่ๆ จริงๆ ต้องบอกว่าเราเริ่มออกแบบท่าเต้นมาตั้งแต่สมัยยังอยู่วง SO-M และ D.U.S.T แล้ว ตอนนั้นก็ออกแบบให้กันเองด้วย แล้วพอทุกอย่างจบ เราพอมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น ว่างมากขึ้น ก็เลยลองก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยดู ไปเป็นครูสอนเต้นดู เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างนี้
เคยสอนให้ศิลปินคนไหนบ้าง?
มิลค์ ณัฐชยา : ก็ตั้งแต่สมัยค่ายเก่า (บริค เฮาส์) ที่เราได้มีโอกาสได้ฝึกสมาชิกวง "เรดสปิน" (Redspin) พอออกจากค่ายมา มาอยู่กับ "ครูเจ" อยู่กับ "ป็อป เอเวอร์" ก็เลยมีโอกาสออกแบบท่าเต้นให้กับวง "ป็อปไฟว์" (POP 5) ด้วย
กระแสหลังปล่อยเพลงทักมารักกัน?
มิลค์ ณัฐชยา : โห ดีใจนะ กระแสตอบรับดีเลย เพราะว่าทุกคนจะชอบเพลง ท่าเต้นน่ารักมากเลย เพลงน่ารักมากเลย เราก็รู้สึกดีใจที่เหมือนทุกคนชอบในสิ่งที่เป็นตัวตนของเราจริงๆ
ถือว่าประสบความสำเร็จมั้ย?
มายด์ ณัฐนิชา : ประสบความสำเร็จในระดับที่เราได้รับความเห็นเชิงบวกอะไรอย่างนี้กลับมามากกว่า เรารู้สึกว่าแค่แฟนคลับเราชอบเราก็มีความสุขแล้วกับการได้ทำเพลงนี้ออกมา
คาดหวังกับการกลับมาในนาม SIStory's ยังไงบ้าง?
มิลค์ ณัฐชยา : จะบอกว่าไม่คาดหวังเลยก็ไม่ได้เนาะ (หัวเราะ)
มายด์ ณัฐนิชา : ก็มีความคาดหวังอยู่
มิลค์ ณัฐชยา : แต่ว่าเราถือว่าเราทำในส่วนของเราเต็มที่แล้วที่เหลือก็ให้เป็นส่วนของปัจจัยภายนอกแล้วกัน
มองวงการเพลงป็อปสไตล์ไทย (T-POP) ขณะนี้เป็นอย่างไร?
มายด์ ณัฐนิชา : เอาจริงๆ ช่วงนี้ค่อนข้างคึกครื้นพอสมควรต่างจากช่วงที่เราทำวงแรกๆ เมื่อสมัยก่อน ก็ช่วงนี้ก็มีศิลปินหน้าใหม่ออกมาค่อนข้างเยอะมาก การแข่งขันก็ค่อนข้างสูงขึ้น แต่ว่าก็ยังขาดพื้นที่ให้แสดงออกค่อนข้างน้อยนิดนึง แต่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน
มิลค์ ณัฐชยา : เพราะว่ามันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับน้องๆ หลายๆ คนด้วย เพราะว่ามีวงมากขึ้นก็มีพื้นที่ให้ทุกคนได้แสดงความสามารถมากขึ้นด้วย
เหมือนมีคู่แข่งเยอะขึ้น?
มายด์ ณัฐนิชา : ไม่เท่าไหร่นะ (หัวเราะ) รึเปล่า
มิลค์ ณัฐชยา: คือไม่อยากไปมองว่าเขาเป็นคู่แข่งขนาดนั้น
มายด์ ณัฐนิชา : คือเราก็เป็นเพื่อนในวงการ มันก็ทำให้วงการมีสีสันมากขึ้นอะไรอย่างนี้ เราก็ไม่ได้ไปรู้สึกว่าการเป็นศิลปินมันต้องไปแข่งกับใครเพราะว่าเราก็ทำด้วยความสุข เราอยากทำจริงๆ ทำออกมาก็ไม่ได้คาดหวังที่จะไปแข่งอะไรกับใครมากอยู่แล้ว
เรื่อง , ภาพ , วิดีโอ : ดรงค์ ฤทธิปัญญา