เพจ “กระแสข่าว” เผยคลิปวิดีโอคนงานกำลังเทปูนริมถนน ขณะมีน้ำท่วมขัง ด้าน เพจ “ฉิบหายแล้วบ้านกู” เผยว่า การเทปูนลงน้ำทำไม่ได้ แต่กรณีนี้ขอเดาว่าที่ทำเพราะว่าสั่งคอนกรีตมาแล้ว และจะอยู่บนรถได้เพียง 2-3 ชั่วโมง ถ้าไม่เทออกจะแห้ง แข็ง ทำให้ต้องตัดรถเพื่อสกัดปูนออก รถก็อาจจะพังได้
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เพจ “กระแสข่าว” เผยคลิปวิดีโอความยาว 0.40 วินาที เผยให้เห็นคนงานก่อสร้างกำลังเทปูนโดยมีรถเทปูนก็เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ บนพื้นผิวถนนในขณะที่น้ำท่วมขัง โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “ปาฏิหาริย์ มีจริงใช่ไหม เพิ่งได้ความรู้ใหม่เทปูนตอนน้ำท่วม ใครมีความรู้เมนต์หน่อย อยากรู้ว่าได้เหรอ #ไทยแลนด์ ล้ำไปอีกขั้น”
ต่อมา เพจ “ฉิบหายแล้วบ้านกู” ได้ออกมาโพสต์อธิบายเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า การเทปูนลงน้ำทำไม่ได้ แต่กรณีนี้ขอเดาว่าที่ทำเพราะว่าสั่งคอนกรีตมาแล้ว และจะอยู่บนรถได้เพียง 2-3 ชั่วโมง ถ้าไม่เทออกจะแห้ง แข็ง ทำให้ต้องตัดรถเพื่อสกัดปูนออก รถก็อาจจะพังและยุ่งยากมาก โดยระบุข้อความว่า "พี่แกเทคอนกรีตผสมเสร็จลงไปในถนนที่น้ำท่วม แล้วคนสงสัยว่า ทำได้เหรอ ? ทำทำไม ? อันนี้ตอบทีละข้อก่อนเลย คือการเทปูนลงน้ำน่ะ ทำไม่ได้ครับเพราะ ส่วนผสมของคอนกรีตจะผิดเพี้ยนไป
นอกจากนี้ มันยังไม่สามารถควบคุมการเทด้วย เลย ไม่ควรทำ อ่าว แล้วทำ ทำไม อันนี้ก็ต้องบอกว่า ขอเดา แต่เชื่อว่าถูก คือ คอนกรีต เมื่อสั่งมาแล้ว มันจะมีเวลาอยู่บนรถ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถ้าไม่เททิ้ง เทออก มันจะแห้ง และแข็ง ซึ่งจะต้องตัดรถ แล้วสกัดปูนออก รถก็จะพัง และมันก็ยุ่งยาก อีกอย่างคือ เมื่อสั่งคอนกรีตมาแล้ว ถ้ารีเจค ไม่เท ต้องรายงานนะว่าสั่งมาทำอะไร แต่ ถ้าสั่งแล้วเท แต่บอกว่า เทแล้วฝนตกหนัก คอนกรีตที่เทจึงใช้ไม่ได้ ของบเทใหม่ จะ “ไม่โดนด่า”
เข้าใจยังละว่าทำไมต้องเท ? ที่ควรต้องถามคือ เทไปน่ะ คอนกรีตมันจะเป็นไง เพราะนั่นสำคัญกว่า คอนกรีตที่เทๆ ไปน่ะ มันจะผสมกับน้ำจนเหลวมากๆ แล้วก็ไหลลงท่อไป ทำให้ท่ออาจจะอุดตันและ อีกส่วนก็จะนอนก้นที่ถนน ทำให้ถนนไม่เรียบ และดูทุเรศสายตา คนที่สั่งเทคอนกรีตทิ้งน้ำ เพราะไม่อยากทำรายงาน กับขับที่เทคอนกรีตออกจากรถ เพราะไม่อยากให้รถพัง เลยทำให้ถนน และท่อระบายน้ำซึ่งเป็นของสาธารณะเสียหาย ตรงนี้ต่างหากที่ควรถามกันว่า จะรับผิดชอบกันยังไง
ส่งกันมาในอินบ็อกซ์เยอะมากๆ จนไม่ไหวจะตอบทีละคนแล้ว ตอบตรงนี้ทีเดียวละกันนะว่าแต่ พี่คนถ่ายคลิป เค้ารู้จักลุงเข้ด้วยละ เขียนตรงนี้ทีเดียวเลยละกัน”