xs
xsm
sm
md
lg

MEA เตรียมพร้อมระบบจำหน่ายไฟฟ้ารองรับการใช้ไฟฟ้าหน้าร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (10 เมษายน 2564) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า จากสถิติการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA นั้น จะพบว่า ในช่วงฤดูร้อนจะเป็นช่วงฤดูที่มีการใช้ไฟฟ้ามากที่สุดในรอบปี ซึ่งเห็นได้จากสถิติค่าความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Max. Demand) เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 9,525.93 เมกะวัตต์ ขณะที่ล่าสุด ค่าความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของปี 2564 คือ 8,798.05 เมกะวัตต์ เกิดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม 2564 อีกทั้ง ในปี 2564 MEA ยังได้คาดการณ์ค่าพยากรณ์จากจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าราว 4,132,925 ราย โดยคาดว่าจะมีการใช้ไฟฟ้าที่ 52,076 GWh ซึ่งมากกว่าปี 2563 ที่มีค่าพยากรณ์การใช้ไฟฟ้าที่ 50,651 GWh มากถึงร้อยละ 2.81

โฆษก MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความต้องการพลังไฟฟ้าที่สูงขึ้น MEA จึงมีการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าต่างๆ สำหรับรองรับการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาใช้สนับสนุนระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคงและเพียงพอ ต่อความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหัวใจสำคัญอย่าง ศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ทำหน้าที่เป็นระบบตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูล Realtime ใช้ในการตรวจสอบสถานะ ตลอดจนวิเคราะห์การทำงานของระบบควบคุมตรวจจับข้อมูล แล้วส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ทราบผ่าน Monitor ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ MEA เริ่มใช้เป็นองค์กรแรกในประเทศไทย และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้การบริหารจัดการควบคุมแรงดันและการจ่ายกระแสไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย สามารถสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้า

พร้อมกันนี้ ยังมีระบบการทำงานภาคสนาม ที่เน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ หรือ ที่เรียกว่า FFM โดยใช้ MEA Smart Life Application ที่สามารถถ่ายภาพ แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้ทันที ช่วยรองรับการบริการด้านการแก้ไขระบบไฟฟ้าของ MEA ได้ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสามารถเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และแก้ไขปัญหาได้ในระยะเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ เครื่องใช้ไฟฟ้ามักต้องทำงานมากขึ้น เป็นเหตุให้เสียค่าไฟมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ควรหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี โดยยึดหลัก “ปิด-ปรับ-ปลด-เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26 องศาเซลเซียส ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็น ตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) และควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมทั้งติดตั้งสายดิน พร้อมเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า

ขณะเดียวกัน จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่นั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงเพื่อความปลอดภัย MEA ขอแนะนำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าชำระค่าไฟฟ้าหรือใช้บริการช่องทางออนไลน์ สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทาง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น MEA Smart Life Application ช่องทาง e-Payment ช่องทางหักผ่านบัตรเครดิต Mastercard รวมถึงสามารถเข้าไปเลือกใช้ทุกบริการออนไลน์ ของ MEA ได้ที่ https://www.mea.or.th/eservice/ ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของ MEA ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
Energy for city life, Energize smart living

                      


กำลังโหลดความคิดเห็น