นักศึกษาสาวที่ถูกพนักงานร้าน Wine Connection (ไวน์ คอนเน็คชั่น) ทำร้ายร่างกาย เผยแชตที่คู่กรณีทักมาขอโทษ เผย ถ้าสำนึกผิดแล้วก็ไม่อยากจะเอาความอะไร พร้อมระบุข้อความเคลียร์ทุกประเด็น วอนทุกคนเคารพการตัดสินใจ
จากกรณีสาวรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอประจานพฤติกรรมของพนักงานร้าน Wine Connection (ไวน์ คอนเน็คชั่น) หลังตนเองมีนัดสัมภาษณ์งาน แต่พนักงานกลับไม่ทราบเรื่อง ทำให้เกิดปากเสียง ถึงขั้นพนักงานเอามือดึงหูสาวรายนี้ให้ออกจากร้าน อีกทั้งยังกระชากมาสก์ทิ้งลงพื้น ต่อมา ทางร้านไวน์ ได้ออกประกาศขอโทษและลงโทษพนักงานคนดังกล่าวด้วยการไล่ออก
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 เม.ย. สาวผู้เสียหายได้ออกมาอัปเดตความเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้โพสต์ภาพแชตที่คู่กรณีส่งข้อความมาขอโทษอีกทั้งภาพของใบแจ้งความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Pim Pawinee” พร้อมระบุข้อความว่า
“เรื่องที่จะขอชี้แจ้งในวันนี้นะคะ ทุกคนคงทราบดีว่าสองสามวันมานี้มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นกับตัวหนู ซึ่งมีหลายคนมากที่ได้เข้าใจและอยู่ข้างๆ หนู ซึ่งหนูขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากๆ และหนูก็ขอยืนยันว่าสิ่งที่หนูพูดไปในไลฟ์สดนั้น หนูไม่ได้แต่งเรื่องหรืออะไรทั้งสิ้น เรื่องที่หนูอยากจะพูดนะคะ
1) เรื่องคดีความ
เนื่องจากตอนนี้หนูยังเอาผิดอะไรทางนั้นไม่ได้นะคะ เพราะทางกฎหมายแล้วยังไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย เท่าที่ตำรวจได้พูดมานะคะ ตอนแรกก็ว่าจะรอเอาคลิปมาดูไปๆ มาๆ อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเอาคลิปมาให้หนูได้ เนื่องจากทางร้านไม่ได้เสียบปลั๊กเนื่องด้วยสถานะการโควิคหรือร้านปิดตัวไปนานนี้แหละหนูจำได้ไม่หมดเลยขอไม่พูดส่วนนี้นะคะ สรุปก็คือไม่มีหลักฐานเอาผิด แต่ถ้าหนูติดใจเอาความทางตำรวจก็จะดำเนินการให้ในส่วนนี้
2) เรื่องการพูดเร็วในไลฟ์สด
ทำให้ใครหลายๆ คนตำหนิหนูมา หนูน้อมรับนะคะ และหนูจะนำไปแก้ไขปรับปรุงตัวเอง หนูดูไลฟ์เองก็ยังคิดว่าทำไมพูดเร็วขนาดนี้ แต่ตอนนั้นหนูตื่นเต้นมากด้วยค่ะ หนูไม่เคยมีไมค์มาจ่อหน้าแบบนี้มากก่อน แล้วหนูก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดแบบไหน พิธีการยังไง อารมณ์หนูก็เหมือนเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังค่ะ ส่วนนี้น้อมรับคำติชม ที่พูดจาไม่ดี แต่หนูอยากให้ทุกคนที่คอมเม้นแรงๆย้ำคิดสักนิด ว่าสิ่งที่พิมพ์มานั้นมันแรงไปรึเปล่า ส่วนตัวหนูหนูโอเครนะคะ แต่พ่อแม่ครอบครัวหนูเค้าต้องมาเจอแบบนี้มาเห็นคนที่ด่าลูกตัวเอง เค้าก็เครียดแทนหนู หนูอยากให้พี่ๆช่วยหยุดใช้ถ้อยคำที่รุนแรง และตำหนิติเตียนหนูด้วยคำแนะนำดีๆ ให้หนูพัฒนาด้านการพูดการวางตัวจะดีกว่า
3) เรื่องพี่คนในคลิป ตอนนี้พี่เค้าติดต่อหนูมาแล้วนะคะเมื่อวันพุธที่ เวลา 16.57 น. และหนูขอโทษจริงๆ ที่เพิ่งจะตอบไปเมื่อวาน เนื่องจากคนแชทมาหาหนูเยอะมากทำให้ไม่เห็นแชตพี่เค้า สำหรับหนูแล้วถ้าเค้าเค้าสำนึกผิดจริงๆ หนูก็ไม่อยากติดใจเอาความอะไร เพราะสิ่งที่พี่เค้าเจอมันก็คงหนักพอสมควรแล้ว และหนูหวังว่าเหตุการณ์ในวันนั่นมันจะเป็นบทเรียนที่มีค่าของหนูและพี่เค้าในการทำงานและการใช้ชีวิตต่อไป และหนูหวังว่าการตัดสินใจของหนูในเรื่องนี่ไม่ว่าหนูจะยอมความ หรือจะสู้คดี อยากให้พี่ๆ และคนรอบข้างของหนูเคราพในการตัดสินใจของหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ
และในส่วนของเรื่องหลานมีหลายคนบอกว่าไปสมัครงานเอาหลานไปทำไม คือ หนูคิดว่าไปสัมภาษณ์เสร็จจะไปกินบิงซูกันต่อ และหลานหนูก็นั่งรออยู่ตรงโซนที่นั่งที่ทางห้างเตรียมไว้ไม่ได้ไปนั่งในส่วนร้านนะคะ หนุอยากให้ทราบในจุดนี้ด้วย ที่สำคัญหนูอยากให้ทุกคนเข้ามาสอบถามและดูที่เฟซหนูจะดีกว่า อย่างน้อยฟังจากเจ้าตัวคงดีที่สุดแล้ว แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณสื่อที่ช่วยกระจายข่าวของหนู และที่สำคัญ กำลังใจจากพี่ๆ ทุกคนที่มีให้หนูแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ยังปกป้องหนู หนูเห็นทุกคอมเม้นที่ออกตัวแทนหนู และอธิบายเรื่องราวให้บางคนที่ยังไม่ได้ติดตามข่าวนี้ได้รับทราบถึงเรื่องราว หนูไม่รู้จะขอบคุณพวกพี่ๆและน้องๆยังไงแต่ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ตอนแรกหนูจะอัดวิดีโอแต่เสียงที่บ้านดังมาก ทั้งแมวร้องทั้งพ่อเรียกกินข้าวทุก 5 นาที เลยพักอัดคลิปมาพิมพ์แทนดีกว่า ขอบคุณที่ติดตามข่าวสารนะคะ ต่อจากนี้ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางตำรวจต่อไปถ้าเรื่องจะเงียบหรือพี่คู่กรณีไม่อยากมาขอโทษหรือเปิดใจคุยกันซึ่งๆหน้า อันนี้หนูคิดว่าคงเป็นสิทธิ์ของเค้า แต่ในส่วนสิทธิของหนูหนูคิดว่าหนูปกป้องตัวเองและทำเต็มที่แล้ว ขอบคุณค่ะ”