xs
xsm
sm
md
lg

นักข่าวสาวเล่าเหตุ “ก็อดซิลล่า” กัดมือ ต้องผ่าตัด 2 รอบ ต้องลุ้นอาการวันต่อวัน เจ้าตัวเผยไม่มีใครอยากให้เกิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้สื่อข่าวสาวโพสต์เฟซบุ๊กเล่าเหตุการณ์ถูกลิงแสม “ก็อดซิลล่า” กัดที่บริเวณนิ้วชี้ข้างซ้ายหลังลงพื้นที่ทำข่าว ต้องผ่าตัดถึง 2 รอบ แผลติดเชื้อ ลุ้นอาการวันต่อวัน ระบุไม่ใช่ความผิดของน้อง ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เผยอาจเป็นเพราะความประมาทของตนเอง

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในนามชุด “เหยี่ยวดง” ได้เข้าตรวจลูกลิงแสม อายุ 3 ปี 8 เดือน ที่เจ้าของตลาดย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ ได้เลี้ยงดูไว้จนมีร่างกายอ้วนพลี เพื่อนำไปดูแลที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายที่ต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม ทำให้มีสื่อจำนวนมากให้ความสนใจและเสนอข่าวของสิงแสมตัวนี้เป็นจำนวนมาก

โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ผู้สื่อข่าวสาวจากช่อง PPTV HD 36 ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังโดนเจ้า “ก็อดซิลล่า” กัดบริเวณนิ้วมือ ขณะลงพื้นที่ไปทำข่าว ทำให้ได้รับบาดเจ็บต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และลุ้นอาการวันต่อวัน ว่าต้องเข้ารักษาที่ห้องไอซียูหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครเป็นคนผิด และไม่มีใครอยากให้เกิดอาจจะเกิดจากความประมาทของตนเอง ทั้งนี้ ทางเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

“หลังจากที่หายไป 1 อาทิตย์กว่าๆ วันนี้จะขอใช้พื้นที่ส่วนตัวอธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่ “เราถูกลิงกัด” ถึงแม้ว่าร่างกายและจิตใจตอนนี้จะยังไม่พร้อม แต่เราถูกพาดพิงเยอะมากจนต้องขอออกมาชี้แจง

ต้องขอบอกก่อนว่าไม่ได้จะออกมาแก้ตัว หรือโทษว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความผิดใคร เรื่องของน้อง (ก็อดซิลล่า) เราในฐานะคนเลี้ยงสัตว์เหมือนกัน เราเข้าใจหัวอกเจ้าของดี ที่ต้องถูกจับแยกกับน้อง

เจตนาเดียวหลังจากที่เราได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าวนี้ คือการไปแชร์ความน่ารักของน้อง และช่วยหาแนวทางการดูแล เพราะน้องมีน้ำหนักที่มากเกินไป อาจเสี่ยงที่จะเป็นโรคได้ ไม่ได้มีเจตนาจะไปวุ่นวายหรือต้องการให้น้องถูกจับไป

ข้อความหลังจากนี้เพื่อต้องการอธิบาย ไล่เรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้น และเเชร์ประสบการณ์ของตัวเอง ขอความกรุณาได้โปรดเป็นผู้ฟังที่ดีอย่าใช้ถ้อยคำดูถูก หรือหยาบคาย

- 24/03/64 ประมาณ 08.30 น. เราได้รับมอบหมายงานให้ไปทำข่าว ลิงแสม ที่ชื่อ “ก็อดซิลล่า” ย่านมีนบุรี เราและพี่ในออฟฟิศช่วยกันหาข้อมูลอยู่ประมาณ15นาที จนได้เบอร์ติดต่อเจ้าของคือ คุณลุงมานพ

- เรารีบโทร.ติดต่อไป มีเสียงผู้หญิงรับ จึงแนะนำตัวพร้อมกับบอกเจตนา // ซึ่งปลายสายแจ้งว่าขอปรึกษากับครอบครัวก่อน เราโอเคไม่เร้าหรือ

- ประมาณ 5 นาที เจ้าของติดต่อกลับมา บอกว่า ให้เราไปได้เลย มาถึงสัก09.30 น. นะเพราะจะอาบน้ำแต่งตัวให้น้องก่อน และจะล่ามน้องไว้

- ระหว่างนั้นเราโทรหาพี่นักข่าวที่เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า เพื่อศึกษาข้อมูล และหาเบอร์คุณหมอ โดยพี่เค้าเตือนเราว่าลิงแสมเป็นสัตว์ป่า อาจจะดุร้าย ให้เราระวังตัว

- 09.30 น. เราไปถึง เจอเจ้าของและน้องนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ที่ตัวน้องมีเชือกล่ามไว้โดยมีเจ้าของจูงอยู่ เราเดินเข้าไปแนะนำตัว และทักทายตามมารยาท และยืนดูน้องอยู่ห่างๆ

- ระหว่างที่พูดคุยกัน เรายืนกอดอกตลอด เพราะกลัวว่ามือไม้จะทำให้น้องตกใจ // เราพยายามถามเจ้าของตลอดว่าน้องดุไหม น้องมีพฤติกรรมอย่างไร หวงของไหม ซึ่งตลอดระยะเวลาตรงนั้น “เจ้าของพยายามพูดให้เราจับน้อง” หลายครั้ง (เรามีหลักฐานที่ช่างภาพถ่ายไว้)

- ผ่านไปประมาณ 10 นาที เราเริ่มรู้สึกไว้ใจมากขึ้นจึงโน้มตัวลงไปเล็กน้อยเพื่อเรียกชื่อน้อง แต่เชือกที่ถืออยู่หย่อนเกินไป น้องกระโจนขึ้นมาคว้ามือไปกัด

- วินาทีนั้นเรารู้แค่ว่ามันแรงมาก หลังจากเห็นแผลเรารู้ทันทีว่า ต้องไปหาหมอ สภาพแผลตอนนั้นลึกถึงกระดูก เป็นรอยฉีกขาดขนาดใหญ่ เรารีบเอาเสื้อคลุมพันนิ้ว และบอกกับทีมว่า ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!!

- ไปโรงพยาบาลแรก หมอบอกว่าแผลลึกมาก ซึ่งที่นี่อุปกรณ์ไม่พร้อม จึงให้เราไปรักษาอีกที่ ระแวกใกล้กัน เมื่อถึงโรงพยาบาลที่สอง หมอเรานอนรออยู่2ชั่วโมง กว่าจะได้รับการรักษา ตอนนั้นผลเอกซเรย์บอกว่ากระดูกไม่แตกหัก หมอจึงเย็บแผลปิด

- แต่เรารู้สึกว่านิ้วมือขยับไม่ได้ และไม่รู้สึก จึงรีบประสานกลับไปทางออฟฟิศเพื่อขอย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ ซึ่งโรงพยาบาลนั้นมีเครื่องสแกน MRI

- ปรากฎว่าเมื่อมาถึงโรงพยาบาลที่ 3 หมอแจ้งว่ามีเส้นเอ็นและเส้นประสาทที่ชำรุด ต้องผ่าตัดด่วน วันนั้นเราเข้าห้องผ่าตัดตอน 20.00 น. และออกมาตอน 23.00 น. ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี รุ่งขึ้นอีกวันเรากลับมาพักฟื้นที่บ้าน

- หลังจากนั้นเราไปล้างแผลและฉีดวัคซีนตลอดที่โรงพยาบาล วันที่ 28/03/64 หมอที่โรงพยาบาลแจ้งว่าแผลติดเชื้อ เพราะแผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ บวกกับผลเลือด จึงส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลเดิม

- 29/03/64 เราเข้าห้องผ่าตัดเป็นรอบที่ 2 คราวนี้เปิดเเผลยาวขึ้น บวกกับผลเลือดเรา เม็ดเลือดขาวเหลือแค่ 3,000 เซลล์/ไมโครลิตร ซึ่งคนปกติควรจะมี 8,000-11,000 เซลล์/ไมโครลิตร ซึ่งอาจจะมาจากการติดเชื้อ

- ตอนนี้เรานอนรักษาตัวแบบลุ้นวันต่อวันว่าผลเลือดจะลดลงอีกไหม ถ้าแนวโน้มยังลดลงอีก หมายความว่าเราอาจจะต้องย้ายไปรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อ icu

สุดท้ายนี้เราแค่อยากบอกว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีใครผิด ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความประมาททั้งเรา และเจ้าของ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และใจเราก็ยังคงแอบเชียร์ให้น้องได้กลับไปอยู่กับคนที่น้องรัก พร้อมกับสุขภาพที่ดีขึ้น”

กำลังโหลดความคิดเห็น