นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการจัดงานเทศกาลสาดสีใน จ.เชียงใหม่ หลังผู้จัดมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับเทศบาลนครเชียงใหม่ เผย ตรวจสอบแล้วส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย การ์ดตก หวั่นกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ระบุใครอนุญาตไปก็ต้องรับผิดชอบ
จากกรณีเชียงใหม่ส่อขัดคำแนะนำ ศบค.งดสาดน้ำสงกรานต์สกัดโควิด-19 จัดเทศกาลสาดสี HOLI Festival เฉลิมฉลองแบบอินเดีย ใส่เต็มเหนี่ยวสนุกเต็มที่กลางไนท์บาซาร์ ชูกระตุ้นท่องเที่ยว ทั้งที่ในประเทศต้นตำรับยังผวาเชื้อมรณะประกาศงดจัด อย่างไรก็ตาม พบว่าหลายคนที่ได้รับชมภาพบรรยากาศการจัดงานดังกล่าวแล้วตั้งข้อสังเกตว่า การจัดงานในลักษณะนี้เป็นการก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดและรับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ อีกทั้งขัดแย้งกับแนวทางของ ศบค.ในการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ พบด้วยว่าแม้แต่ในประเทศอินเดีย ที่เป็นต้นตำรับของเทศกาลสาดสี ยังมีการประกาศให้งดการจัดเทศกาลสาดสีประจำปี 2564 ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28-29 มี.ค. 64 เนื่องจากเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงตั้งคำถามเหตุใดที่จังหวัดเชียงใหม่กลับมีการจัดเทศกาลดังกล่าวนี้
ต่อมา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ตั้งโต๊ะแจงประเด็นจัดงานเทศกาลสาดสีที่ถูกวิจารณ์สนั่นว่าการ์ดตกป้องกันโควิด-19 ยืนยันว่าขออนุญาถูกต้องและมีมาตรการป้องกันเข้มงวด คนไม่สวมหน้ากากแค่นักแสดง ไม่มีถูกเนื้อต้องตัว ประกาศพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหากมีคนร่วมงานติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ผู้ว่าฯ สั่งตรวจสอบภาพบันทึกการจัดงานอย่างละเอียด หากพบหย่อนยานเตรียมลงดาบตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (30 มี.ค.) มีรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเหตุการณ์เทศกาลสาดสีใน จ.เชียงใหม่ ว่าตนเองเป็นกังวลและต้องรีบหารืออธิบดีกรมควบคุมโรค และปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่าการอนุญาตจัดงานแบบนี้อยู่บนพื้นฐานอะไร เพราะการติดเชื้อโควิด-19 ไม่ได้อยู่ที่ว่าไม่ได้สาดน้ำแต่มาสาดสีจะไม่ติดเชื้อ แต่ที่ติดเพราะเป็นการรวมตัวของผู้คน มีการกระจายละอองฝอยลมหายใจกัน ซึ่งต้องเช็กดูก่อนเพราะเพิ่งทราบเมื่อเช้านี้
ส่วนที่บางคนบอกว่าสาดสี ไม่ได้สาดน้ำ ความจริงแล้วมันก็เหมือนกัน มันไม่ได้เกี่ยวว่าสาดอะไร มันเกี่ยวกับการเข้ามารวมกลุ่มกันมากกว่า ตนก็ถามไปว่าใส่หน้ากากอนามัยกันหรือเปล่า ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ได้ใส่ ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็มีโอกาสยุ่ง
นอกจากนี้ รมว.สธ.ยังได้กล่าวถึงในเรื่องของการขออนุญาตจัดงานอะไรต่างๆ ก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าระเบียบบริหารราชการแผ่นดินในแต่ละจังหวัดก็เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ได้อนุมัติโดยรัฐบาล ดังนั้น ผู้ว่าฯ ต้องประเมินสถานการณ์ และว่ากันเป็นกรณีๆ ไป
นอกจากนี้ ตนเองไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ไปกำชับผู้ว่าฯ ตนมีอำนาจในการกำชับปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค และสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อ โดยมีผู้ว่าฯ เป็นประธาน ซึ่งขั้นตอนตนก็จะไปตามขั้นตอนของตนก่อน เรื่องนี้เป็นอำนาจอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ใครอนุญาตไปก็ต้องรับผิดชอบ