xs
xsm
sm
md
lg

เดอะ เรนโบว์ รูม จับมือหอศิลป์กรุงเทพฯ เชิญชมนิทรรศการศิลปะเพื่อความแตกต่าง “Language of The Soul”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มูลนิธิเดอะ เรนโบว์ รูม ศูนย์ความเข้าใจเชิงบวกเกี่ยวกับความต้องการพิเศษแห่งแรกในประเทศไทย ร่วมกับอาร์ต คอนเนคชั่น โดยการสนับสนุนของหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เชิญชมนิทรรศการศิลปะเพื่อความแตกต่าง “Language of The Soul - ภาษาแห่งจิตวิญญาณ” ครั้งที่ 1 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 25 มีนาคม 2564 ถึง 24 พฤษภาคม 2564

นิทรรศการ “Language of The Soul” ครั้งที่ 1 เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์นิทรรศการ “Language of The Soul” ซึ่งรวมนิทรรศการศิลปะต่อเนื่องทั้งสิ้น 6 ครั้งด้วยกัน โดยจัดแสดงตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ แต่ละนิทรรศการจะมีการนำเสนอผลงานของศิลปินที่มีความต้องการพิเศษในรูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับครอบครัวบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ ผู้เกี่ยวข้อง และบุคคลทั่วไป นอกจากนั้น งานนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวันดาวน์ซินโดรมโลกในวันที่ 21 มีนาคม และวันออทิสซึมโลก ในวันที่ 2 เมษายน ของมูลนิธิฯ ทุกปีอีกด้วย


โรสซาลีน่า อเล็กซานเดอร์ แม็คเคย์ ประธานมูลนิธิเดอะ เรนโบว์ รูม กล่าวว่า “นิทรรศการ ‘Language of The Soul’ เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของมูลนิธิ เดอะ เรนโบว์ รูม และภาคี ที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่หลากหลายของมนุษย์ และกระตุ้นเตือนถึงการสร้างสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกันนอกจากนั้น ยังเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับงานศิลปะและความต้องการพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมให้ครอบครัวมองเห็นความเป็นไปได้ และการพัฒนาบุคคลที่มีความต้องการพิเศษได้เต็มศักยภาพ ซึ่งนับเป็นเกียรติของมูลนิธิฯ เป็นอย่างยิ่งที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครเห็นความสำคัญในการให้พื้นที่เพื่อส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์เช่นนี้”


ฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที รักษาการผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ในฐานะองค์กร หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครมีความตระหนักถึงความสำคัญของการเปิดพื้นที่สำหรับการเข้าถึงงานศิลปวัฒนธรรมเพื่อคนทุกความสามารถมาโดยตลอด โดยใช้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมนำเสนอผ่านกิจกรรมศิลปะ ให้เห็นคุณค่าและความหมายของความแตกต่าง เกียรติ ศักดิ์ศรี และความเท่าเทียม เพื่อพัฒนาสังคมไปสู่ดุลยภาพตามวัตถุประสงค์ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครที่มีมาตั้งแต่แรกเริ่ม ในครั้งนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มูลนิธิ เดอะ เรนโบว์ รูม และอาร์ต คอนเนคชั่น มาร่วมสร้างสรรค์นิทรรศการ “Language of The Soul” ตลอดปี 2564 และต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ หอศิลป์ฯ ยังมีความมุ่งมั่นที่จะเปิดพื้นที่ให้ศิลปินทุกความสามารถได้แสดงผลงานสู่สาธารณชนอย่างต่อเนื่องด้วย”


ประคำกรอง พงษ์ไพบูลย์ ตัวแทนอาร์ต คอนเนคชั่น พูดถึงการร่วมงานในครั้งนี้กับมูลนิธิ เดอะ เรนโบว์ รูม ว่า “สำหรับอาร์ต คอนเนคชั่น เราเป็นภาคีกับมูลนิธิ เดอะ เรนโบว์ รูม มาตั้งแต่ปี 2555 โดย “Language of The Soul” นี้ จะเป็นนิทรรศการต่อเนื่องไปตลอด 1 ปี ถือเป็นโอกาสที่เยี่ยมยอดในการนำเสนอมุมมองและเปิดประสบการณ์ใหม่ทางศิลปะให้กับผู้ชมของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ผลงานสร้างสรรค์ที่ถูกคัดเลือกมาในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการทำงานอย่างต่อเนื่องของเหล่าศิลปินที่ใช้ชีวิตกับงานศิลปะเพื่อดำรงอยู่อย่างแท้จริง พลังของจิตวิญญาณถูกถ่ายทอดอย่างเรียบง่ายลงบนผลงานเหล่านี้ ในขณะเดียวกันความเข้มข้นก็ฉายชัดอยู่ในผลงานแต่ละชิ้น เราเริ่มต้นซีรีส์ความมหัศจรรย์ของภาษาแห่งจิตวิญญาณนี้ด้วยการนำเสนอศิลปินที่เคยมีผลงานสู่สายตาสาธารณชนมาแล้ว 5 คน และศิลปินใหม่อีก 1 คน ในสาขาทัศนศิลป์และหัตถกรรม ควบคู่ไปกับวีดีโอบอกเล่าเรื่องราวของกระบวนการสร้างสรรค์ ที่จะพาผู้ชมเข้าสู่โลกอันลึกซึ้งของพวกเขา นอกจากนี้ งาน “Language of The Soul” ยังจะนำเสนอกิจกรรมอีกหลากหลาย ทั้งเสวนา ภาพยนตร์ และเวิร์คช็อปต่าง ๆ ไปตลอดทั้งปี ในพื้นที่ที่ทุกคนเท่าเทียมกันในหอศิลป์แห่งนี้”


ภายในนิทรรศการ “Language of The Soul” ครั้งที่ 1 นี้ ศิลปินที่มีความต้องการพิเศษทั้ง 6 ท่านที่นำมาผลงานมาร่วมแสดง ล้วนสร้างสรรค์ผลงานที่มีความน่าสนใจและมีเอกลักษณ์พิเศษในแบบของแต่ละคนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น ไกรลาส สกุลดิษฐ์ หรือ “ซัน” ที่หลงใหลในการทอผ้ามาตั้งแต่เด็กจนนำมาสู่การทอผ้าอย่างจริงจังเป็นอาชีพ และนำผลงานจาก “สตูดิโอบ้านซันทอสนุก” ของเขามาร่วมแสดง สืบสกุล โคตธนู หรือ “เพชร” เจ้าของ “เพชรแกลเลอรี่” ที่จังหวัดขอนแก่น ผู้ไม่เคยหยุดวาดภาพสีน้ำที่ให้อารมณ์สงบร่มเย็นตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เจษฎา เลี้ยงบำรุง หรือ “ไอซ์” กับผลงานการสร้างสรรค์งานศิลปะจากน้ำยาลบคำผิด ที่เรียบง่ายทว่าซับซ้อนด้วยความคิดเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ พศิน สิงห์เสน่ห์ หรือ “อัย” ผู้ใช้ศิลปะเป็นเสมือนเครื่องมือในการสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึกจนได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปินแนว Art brut คนแรกของไทย มาริสา สุจริตตานนท์ หรือ “แอนนา” ศิลปินที่สนุกกับการวาดภาพโดยใช้ทั้งสีอะคริลิค สีไม้ และสีน้ำ เพื่อสร้างผลงานที่บ่งบอกถึงความสุขและความสดใส และ แคทลียา อัศวานันท์ หรือ “เหมียว” ที่ถ่ายทอดความสุขจากการวาดภาพออกมาเป็นอีกหนึ่งผลงานในนิทรรศการครั้งนี้

ไกรลาส สกุลดิษฐ์ หรือ “ซัน”

ผลงานของ สืบสกุล โคตธนู หรือ “เพชร” เจ้าของ “เพชรแกลเลอรี่”

 เจษฎา เลี้ยงบำรุง หรือ “ไอซ์”

ผลงานศิลปะของ อัย-พศิน สิงห์เสน่ห์

มาริสา สุจริตตานนท์ หรือ “แอนนา”

แคทลียา อัศวานันท์ หรือ “เหมียว”
โครงการ “Language of The Soul” ยังเป็นการจับมือกันมอบสิ่งดี ๆ กลับสู่สังคมของภาคเอกชนหลายภาคส่วนด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับและครีเอทีฟมือรางวัลระดับนานาชาติอย่าง สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ ที่มาสร้างสรรค์ภาพยนตร์โปรโมตงานชื่อ “Magic Soul” โดยมีทีมงานโปรดักชันเฮ้าส์ระดับประเทศอย่าง Triton Film, Postini รวมถึง Varn Music มาร่วมผลิตงานและดนตรีประกอบ นอกจากนั้น ยังมีเอเจนซี่ระดับแนวหน้าของไทยอย่างโอกิลวี่ ประเทศไทย ช่วยดูแลเรื่องการประชาสัมพันธ์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เป็นตัวอย่างการร่วมมือกันของภาคเอกชน เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับศักยภาพของคนทุกความสามารถให้สังคมอย่างแท้จริง

“บุคคลที่มีความต้องการพิเศษหลายคนใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือหรือ “ภาษา” เพื่อสื่อสารความรู้สึกและประสบการณ์ภายในออกมา โดยผ่านกระบวนการที่มีรูปแบบเฉพาะตัวและน่าสนใจ ทั้งนี้ การที่ผู้ปกครองมี “ตาคู่แรก” ซึ่งสามารถเห็นศักยภาพในการสื่อสารอย่างมีพลังนี้ และมีครูหรือนักบำบัดผู้เห็นความเป็นตัวตน ทั้งยังคอยส่งเสริมให้เขาได้สร้างสรรค์งานที่คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลไว้ ในที่สุด บุคคลที่มีความต้องการพิเศษก็จะสามารถสร้างงานอย่างต่อเนื่อง เพราะสำหรับเขาแล้ว การทำงานศิลปะคือการสื่อสารตัวตนและเป็นชีวิตของเขา” โรสซาลีน่า กล่าวเพิ่มเติม


เกี่ยวกับ เดอะ เรนโบว์ รูม
เดอะ เรนโบว์ รูม คือศูนย์ความเข้าใจในด้านบวกเกี่ยวกับความต้องการพิเศษ ที่ไม่แสวงหากำไร เป็นกลุ่มพ่อแม่ ครอบครัว และเพื่อนของบุคคลที่มีความต้องการพิเศษด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รวมถึงดาวน์ซินโดรม ออทิสซึม และความแตกต่างทางการเรียนรู้ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจในด้านบวกผ่านการแบ่งปันข้อมูล ประสบการณ์ กำลังใจ และพลังเสริม แบบ “พ่อแม่สู่พ่อแม่” โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา เพื่อโอกาสที่ดีกว่าของบุคคลที่มีความต้องการพิเศษในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


กำลังโหลดความคิดเห็น