xs
xsm
sm
md
lg

“เรือมนุษย์” เมื่ออเมริกาเอาตัวรอด! คนที่สนับสนุนต้องหนีไปตายดาบหน้าทั้งทางเรือบินเรือใบ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โรม บุนนาค



สงครามเวียดนาม นับเป็นสงครามที่ยืดเยื้อเรื้อรังมานาน และเป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เริ่มจากโฮจิมินห์ได้ตั้งขบวนการเวียดมินห์ขึ้นขับไล่ฝรั่งเศสในปี ๒๔๘๔ หลังจากฝรั่งเศสเริ่มเข้ายึดครองไซ่ง่อนมาตั้งแต่ปี ๒๔๐๐ จนยึดญวน ลาว และเขมรไปได้ทั้งหมด

เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ญี่ปุ่นเข้ายึดครองเวียดนาม เวียดมินห์จึงได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ส่งอาวุธมาให้ต่อต้านญี่ปุ่น จนสงครามสงบเมื่อญี่ปุ่นวางอาวุธ เวียดมินห์จึงตั้งรัฐบาลขึ้นบริหารประเทศเป็นสาธารณรัฐ

แต่พอสัมพันธมิตรส่งทหารจีนเข้าปลดอาวุธญี่ปุ่นในภาคเหนือ และทหารอังกฤษปลดอาวุธในภาคใต้ ฝรั่งเศสก็ตามอังกฤษเข้ามา และเข้าโจมตียึดที่ทำการของรัฐบาลเวียดนาม เวียดมินต์จึงต้องเข้าต่อสู้กับฝรั่งเศส จนกระทั่งเดียนเบียนฟูแตก ฝรั่งเศสจึงหมดฤทธิ์ ผู้เข้ามาแทนคือสหรัฐอเมริกา ซึ่งเกรงว่าจีนที่สนับสนุนเวียดนามเหนือจะแผ่อิทธิพลเข้ามา ทำให้อินโดจีนเป็นคอมมิวนิสต์ไปหมด จึงหนุนเวียดนามใต้เข้ายันไว้ แต่กองทัพเวียดนามใต้ก็ไม่มีศักยภาพจะยันได้ สหรัฐจึงต้องลงมือเอง และชวนพันธมิตรมาช่วย คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ไทย และเขมร ส่วนเวียดนามเหนือก็มี จีน โซเวียต เกาหลีเหนือ เขมรแดง และขบวนการปะเทดลาว สนับสนุน

สหรัฐครองน่านฟ้าโดยเด็ดขาดเพราะเวียดมินห์ไม่มีเครื่องบิน จึงส่งเครื่องบินขนระเบิดไปถล่มเวียดนามเหนือวันละเป็นร้อยๆเที่ยว ใช้ลูกระเบิดและกระสุนปืนใหญ่ไปถึง ๑๔ ล้านตัน มากกว่าที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ ๒ เสียอีก ทำให้เวียดนามมีหลุมระเบิดเกลื่อนถึง ๒๖ ล้านหลุม
 
แม้จะถล่มรุนแรงถึงเพียงนี้ ก็ไม่สามารถหยุดยั้งเวียดมินห์ได้ ทั้งยังมองไม่เห็นทางชนะ ขณะที่โฮจิมินห์ปลอบขวัญทหารและประชาชนของตนว่า “เรารบกับฝรั่งเศส เราชนะได้โดยง่าย ครั้งนี้เรารบกับเศรษฐี...ช้าหน่อย”

สงครามครั้งนี้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อมนุษยชาติอย่างมหาศาล ประมาณการกันว่าทหารและพลเรือนเวียดนามเสียชีวิตถึง ๓.๘ ล้านคน ทหารสหรัฐ ๕๘,๒๒๐ คนเสียชีวิต และอีก ๑,๖๒๖ คนหายสาบสูญ

ในที่สุดประชาชนอเมริกันก็เรียกร้องให้สหรัฐถอนตัวจากสงครามเวียดนาม เนื่องจากคนอเมริกันอยู่ที่บ้านกันอย่างเป็นสุขแต่ลูกหลานต้องไปตายในดินแดนห่างไกลโดยไม่รู้ว่าไปตายเพื่ออะไร มีการชุมนุมประท้วงเป็นแสนๆคนกระจายไปทั่วประเทศ จนรัฐบาลของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันไม่อาจฝืนมติมหาชนได้ จึงหาทางยุติสงครามสั่งให้ยุติการทิ้งระเบิด และเปิดการเจรจากับเวียดนามเหนือ

ในวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๑๖ นายเฮนรี คิสซิงเกอร์ รมต.ต่างประเทศสหรัฐ ได้เปิดการเจรจากับผู้แทนเวียดนามเหนือที่กรุงปารีส โดยมีเจตนาจะยุติสงครามด้วยกันทั้งสองฝ่าย และไม่สนใจความเห็นของเวียดนามใต้ที่ไม่อยากยุติ จนมีการเซ็นสัญญากันในวันที่ ๒๗ มกรคม ๒๕๑๖ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการยุติสงครามระหว่างสหรัฐกับเวียดนามเหนืออย่างเป็นทางการ โดยสหรัฐจะถอนทหารหน่วยสุดท้ายออกจากเวียดนามใต้ภายใน ๖๐ วัน หรือภายในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๑๖

เมื่อสหรัฐเอาตัวรอดแบบนี้ เวียดนามใต้ก็ว้าเหว่ และเมื่อทหารเวียดมินห์รุกเข้าไซ่ง่อนที่มั่นสุดท้ายในเดือนเมษายน เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ยังประจำอยู่ในไซ่ง่อนและชาวเวียดนามที่ทำงานกับอเมริกันรวมทั้งนักการเมือง จึงพากันเผ่นออกจากประเทศโกลาหล แต่ก็ไปได้เฉพาะคนรวยเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการหนีก็ต้องขอพึ่งแทรกไปกับทหารอเมริกันที่ถอยออก ฝูงชนต่างกรูกันเข้าไปในสถานทูตสหรัฐ เมื่อถูกปิดประตูไม่ยอมให้เข้า ก็พากันปีนเข้าไปและบุกขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อขอขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนีไปด้วย ผู้มีอำนาจทางการเมืองต่างหอบสมบัติของตัวเองและของชาติหนีไปกับอเมริกัน

ส่วนคนที่ไปด้วยไม่ได้ก็ไปตายเอาดาบหน้า ด้วยการเสี่ยงชีวิตออกไปทางทะเลด้วยเรือทุกชนิด แม้แต่เรือประมงและเรือใบลำเล็กๆ เกลื่อนไปทั้งทะเลจนเกิดคำว่า “People Boat” หรือ “เรือมนุษย์” มุ่งไปอินโดเนเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมทั้งไทย จนถึงออสเตรเลีย หลายคนก็โชคดีไปถึงฝั่ง บ้างก็โชคร้ายต้องฝังร่างไว้กลางทะเลด้วยคลื่นลม ทั้งยังถูกสลัดโหดดักปล้นทรัพย์แล้วทำลายหลักฐาน ไม่ให้เหลือทั้งเรือและคน
 
สงครามครั้งนี้ทำให้คนเวียดนามทั้งเหนือและใต้ตายกันมากกว่าสงครามทุกครั้งของประเทศ ซึ่งเกิดจากถูกยุยงให้เข่นฆ่ากันเองในชาติ เพื่อผลประโยชน์ของคนยุเท่านั้น ส่วนสมุนของคนยุนั้น ต่างก็หอบสมบัติและลูกเมียหนีไปกับเจ้านายหมด

เห็นอย่างนี้แล้ว ยังอยากจะลง “เรือมนุษย์” กันอีกหรือ








กำลังโหลดความคิดเห็น