ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กคลายข้อสงสัยเหตุพบผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตกและเสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด-19 ยืนยันไม่กี่ยวข้องกัน พร้อมอธิบายว่า การแตกของเส้นเลือดไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน การแตกของเส้นเลือดสามารถเกิดขึ้นได้เองแม้ไม่ได้ฉีดวัคซีน พบได้ในผู้ที่มีอายุมาก และพบได้ในคนปกติอยู่แล้ว
วันนี้ (26 มี.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตกและเสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด-19 แต่คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวัคซีน เนื่องจากว่าผู้ป่วยรายนี้ป่วยโรคเส้นเลือดโป่งพองในท้อง อยู่ระหว่างรับการรักษา ซึ่งโรคนี้มีโอกาสที่เส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ “หมอยง” ได้โพสต์อธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
“โควิดวัคซีน อาการที่เกิดร่วมด้วย อาการข้างเคียงที่เป็นข่าว การเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิดในประเทศไทย ผู้ป่วยมีเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง ที่เป็นมานานแล้ว (Aortic aneurysm) ที่พบได้ในผู้สูงอายุ และถ้าไม่ได้ตรวจทางรังสีอย่างละเอียดจะไม่รู้เลยว่าเป็น และเส้นเลือดนี้พร้อมที่จะแตกได้ทุกเมื่อ เนื่องจากเป็นเส้นเลือดแดงใหญ่ ถ้าเกิดการแตกจะมีเลือดออกจำนวนมาก และเสียชีวิตทันที เป็นเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วนมาก ในผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนและมีอาการดังกล่าว จึงตัดสินได้ค่อนข้างง่ายว่าอาการดังกล่าวเป็นอาการที่เป็นมาก่อนนานแล้ว เพิ่งมาแสดงอาการ เพราะการแตกของเส้นเลือดจึงไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน
เกิดขึ้นได้เองอยู่แล้ว โรคนี้พบได้ในผู้ที่มีอายุมาก และพบได้ในคนปกติอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนั้นในทำนองเดียวกัน เมื่อฉีดวัคซีนแล้วป่วยเป็นโรคอย่างอื่นที่ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลก็จะหาสาเหตุว่าเกิดในภาวะปกติหรือเป็นผลของวัคซีน การฉีดวัคซีนในหมู่มาก โดยเฉพาะทั่วโลกฉีดไปแล้วประมาณ 500 ล้านโดส ก็ต้องพบเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น และมีผู้เสียชีวิตหลังให้วัคซีนอย่างแน่นอน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องฟังข้อมูลสรุปทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ด้วยเหตุและผล”