ยังมีข้อข้องใจต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หลังศาลฏีกาสั่ง “ปารีณา ไกรคุปต์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ฐานผิดจริยธรรม ตั้งฟาร์มไก่บุกรุกที่ป่า ที่จังหวัดราชบุรี
รายงานพิเศษ
หลังศาลฎีกามีคำสั่งให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพราะศาลมีมติรับคำร้องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งชี้มูลความผิด น.ส.ปารีณา ในประเด็นฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายการเมือง บุกรุกที่ดินของรัฐ ที่บริเวณฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ 711 ไร่
รวมทั้งที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.ด้วย
ข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด น.ส.ปารีณา คือ “ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง และกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรม”
ลองย้อนกลับไปดูว่า การตรวจสอบกรณีครอบครองฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” บนที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ของ น.ส.ปารีณา
ที่ดินแปลงนี้ อยู่ในเขต อ.จอมบึง จ.ราชบุรี อยู่ติดภูเขาที่เรียกว่า “เขาสน” ซึ่งเป็นป่าไม้หนาแน่น มีสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอยู่บนเขา จุดที่เป็นฟาร์มไก่ อยู่ทิศตะวันออกของเขาสน
จุดเริ่มต้นของการตรวจสอบ คือ น.ส.ปารีณา แจ้งแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.ครอบครองที่ดินกว่า 1700 ไร่ รวมทั้งบริเวณ “เขาสน” โดยทำเป็นฟาร์มไก่ ชื่อ “เขาสนฟาร์ม”
แต่ปัญหาคือ ที่ดินบริเวณเขาสน มีสถานะของที่ดินเป็น “ที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม” หรือ “ส.ป.ก.” โดยสามารถอ้างอิงได้จากประกาศพระราชกฤษฎีกา เมื่อปี 2521 ประกาศกำหนดเขตที่ดิน อ.จอมบึง เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
จึงมีคำถามว่า หาก “เขาสนฟาร์ม” ตั้งอยู่ในเขต ส.ป.ก.จริง แล้ว ส.ส.อย่าง น.ส.ปารีณา ได้สิทธิในการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.มาได้อย่างไร เพราะ ส.ป.ก.มีไว้เพื่อจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน ต้องทำการเกษตร จัดสรรได้คนละไม่เกิน 50 ไร่ และห้ามซื้อขายเปลี่ยนมือ จึงนำไปสู่การตรวจสอบ
ซึ่ง น.ส.ปารีณา อ้างว่า ครอบครองอย่างถูกต้อง และจ่ายภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท.5) กับทางท้องถิ่นมาตลอด ส่วนนายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต รมช.คมนาคม ซึ่งเป็นบิดา ออกมายืนยันว่า ที่ดินแปลงนี้ได้มาจากการซื้อต่อจากบุคคลอื่นเมื่อนานมาแล้ว ไม่ใช่การเข้าไปบุกรุกถางป่า
เมื่อเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.เข้าตรวจสอบ กลับพบว่า น.ส.ปารีณา หรือแม้แต่ นายทวี ไม่เคยมีสิทธิครอบครองที่ดินแปลงนี้ไม่ว่าในรูปแบบใด จนเมื่อรังวัดกลับพบว่า ที่ดินที่ถูกใช้ประโยชน์ มีอาคารโรงเรือน ทำเป็นฟาร์มไก่ในชื่อ “เขาสนฟาร์ม” อยู่ในเขต ส.ป.ก. รวม 665 ไร่ และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ อีก 46 ไร่ รวมเป็น 711 ไร่
ตัวเลข 711 ไร่ จึงมาจากการครอบครองที่ดินทั้งที่ ส.ป.ก.และป่าสงวนแห่งชาติรวมกัน โดยถือว่าในช่วงที่เข้าครอบครองที่ดิน 665 ไร่ ยังเป็นเขตป่าสงวนมาก่อน ที่จะกลายเป็น ส.ป.ก.ในปัจจุบัน
ย้ำว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบ ส.ป.ก.อ้างว่า ดำเนินคดีย้อนหลังไม่ได้ และ น.ส.ปารีณา คืนที่ดินให้รัฐแล้ว
ส่วนที่นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา อ้างว่า เป็นที่ดินที่ซื้อต่อมาจากบุคคลอื่นอย่างถูกต้อง เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะแม้จะซื้อต่อมาจริง แต่เป็นการซื้อขายที่ดินที่ “ไม่มีเอกสารสิทธิ์” ยิ่งนายทวี เป็นถึงอดีต ส.ส.และอดีตรัฐมนตรี เหตุใดไม่รู้ว่า เป็นการซื้อขายที่ดินของรัฐอย่างผิดกฎหมาย และยังเข้าไปครอบครองเข้าทำประโยชน์
ด้าน น.ส.ปารีณา ที่เป็น ส.ส.มาแล้วหลายสมัย กลับอ้างไม่รู้ว่า “ผิดกฎหมาย” เพราะที่ผ่านมาจ่ายภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) และนำใบ ภ.บ.ท.5 มาอ้างสิทธิ ก็ไม่สามารถอ้างเช่นนั้นได้ เพราะสถานะของ ภ.บ.ท.5 เป็นเพียง “ใบเสร็จรับเงิน” ไม่ใช่ “เอกสารสิทธิ” และยังมีคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทยหลายครั้งให้ท้องถิ่นยกเลิกการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ไปตั้งแต่ปี 2557
เมื่อดูจากแผนที่ของ ส.ป.ก. ยังเห็นได้ว่า แนวเขต ส.ป.ก.ส่วนใหญ่ในพื้นที่เขาสน ถูกรังวัดเป็นแปลงย่อยๆ เพื่อจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ให้เกษตรกรไปจำนวนมากแล้วตั้งแต่ปี 2557
แต่ในพื้นที่ที่เป็นฟาร์มไก่ ของ น.ส.ปารีณา กลับไม่เคยถูกรังวัดมาก่อน ทั้งที่มีหลักฐานทำเป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ มีการครอบครองเข้าทำประโยชน์ชัดเจน ซึ่งยังเป็นคำถามว่า ทำไมตลอดเกือบ 6 ปี ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จึงไม่เข้ารังวัดที่ดินแปลงนี้
หากตั้งคำถามว่า ก่อนเป็น ส.ป.ก. ที่ดินแปลงนี้มีสถานะเป็นอะไร คำตอบก็คือ เป็น “ป่าสงวนแห่งชาติ” โดยตามกฎหมายจะถือว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน ก็จะเพิกถอนความเป็นป่าสงวนโดยอัตโนมัติ แต่ก็เป็นที่ดินของรัฐอยู่ดี
ดังนั้น แม้ว่าจะอ้างว่าได้ที่ดินมาก่อนจะประกาศเป็น ส.ป.ก. หรืออ้างว่า “ซื้อต่อมาหลายมือ” ก็ไม่สามารถเข้าทำประโยชน์ในที่ดินได้ เพราะป่าสงวนเป็นที่ดินของรัฐ ไม่สามารถซื้อขายได้
และในเมื่อ ป.ป.ช. เอง ก็ตีความว่า ที่ดิน ส.ป.ก.665 ไร่ ถูกครอบครองโดยผิดกฎหมายไปด้วย ในฐานะที่เป็นที่ป่ามาก่อน
ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบการทำงานจากการที่ ส.ป.ก.ไม่ดำเนินคดี กับ น.ส.ปารีณา ด้วยมั้ย?