วันที่ 12 มีนาคม 2564 นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต และ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงภาพรวม “ภูเก็ตกับสถานการณ์เศรษฐกิจและโควิด ปี 2564” และประมวลภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ประเมินสถานการณ์ในปี 2564 ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม รวมถึงนโยบายและแผนงานเพื่อการฟื้นฟูภูเก็ตในระยะยาว ณ ห้องประชุมโรงงาน บริษัท เจ.ดี.พูลส์ จำกัด จ.ภูเก็ต
หลังจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง “จังหวัดภูเก็ต” อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดแม้จะมีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย ทั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการล็อคดาวน์และการห้ามเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศของทุกประเทศทั่วโลกเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เคยมุ่งหน้าสู่ภูเก็ตหยุดชะงักงันในชั่วข้ามคืน ระบบเศรษฐกิจของภูเก็ตที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเพียงเครื่องยนต์เดียวจึงไม่อาจจะขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างปกติ
ภายใต้ความร่วมมืออย่างแข็งขันของภาคราชการและเอกชนในจังหวัดภูเก็ตอย่างเข้มแข็ง ทำให้จังหวัดภูเก็ตได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ระยะแรก จำนวน 68,000 โดส สำหรับคนในพื้นที่ 34,000 คน งวดแรก จำนวน 4,000 โดสจัดส่งเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์และได้ฉีดเข็มแรกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม แก่บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล จำนวน 2,000 คน หลังจากนั้นอีกสามสัปดาห์จะฉีดซ้ำเป็นเข็มที่สอง ส่วนวัคซีนชุดที่สองจำนวน 16,000 โดส และชุดที่สาม 48,000 โดส จะทยอยส่งมอบและดำเนินการตามลำดับ สำหรับบุคลากรที่อยู่ส่วนหน้าต้องติดต่อกับนักท่องเที่ยว อาทิ เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค ด่านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยาน รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการที่ต้องประชุมเป็นคณะ เป็นต้น
จากการเฝ้าติดตามสถานการณ์ของภูเก็ตอย่างใกล้ชิดทั้งจากภาครัฐและเอกชนโดย นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “ตั้งแต่โควิด-19 ระบาดทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นประเทศที่ยากจนมากที่สุดเนื่องจากพิษโควิด-19 หลังจากผ่านวิกฤตรอบสองไปได้เพราะมีประสบการณ์รอบแรกและที่มีการตั้งโรงพยาบาลสนามเป็นที่แรกที่นำร่องดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ แต่เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดไม่มีผู้ติดเชื้อเลย เมื่อเข้าสู่ภาวะการผ่อนคลาย เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว เริ่มแรกเป็นคนไทยมาเที่ยวก่อน เช่น มีการเปิดเพจเพื่อโปรโมทที่พักลดราคา เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกด้าน ในเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเนื่องจากสนามบินยังไม่มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาช่วงนี้ถือเป็นเป็นโอกาสดีที่คนไทยควรมาเที่ยวเพราะหาดสวย น้ำใส เพราะภูเก็ตเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ ที่ใครมาแล้วต้องมาอีก และมีการตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม โดยผู้ประกอบการภูเก็ตรวมกำลังอย่างเข้มข้นเพื่อดัน ‘Phuket First October’ ออกสู่สายตาสาธารณชนต่อชีวิตให้ชาวภูเก็ต รวมถึงนโยบายและแผนงานเพื่อการฟื้นฟูภูเก็ตในระยะยาว
ขณะมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 250 ล้านคน สำหรับต่าชาติและคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ จะเดินทางมาประเทศไทย จะมีการกักตัวน้อยลงเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งทางภูเก็ตได้ขอทางรัฐบาลไปแล้วว่านักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนมา 2 เข็มแล้วไม่ต้องกักตัว ขณะที่คนที่ฉีดมาเข็มเดียวต้องกักตัว 10 วัน และให้อยู่ในห้องพักได้ 5 วัน ส่วนอีก 5 วัน อยู่นอกห้องทำกิจกรรมได้เช่น ฟิตเนสแต่ต้องอยู่ภายในบริเวณที่พัก ส่วนต่างชาติที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ต้องกักตัว 14 วัน นอกจากจะมีการกักตัวบนเรือยอชต์สำหรับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศทางเรือแล้ว ล่าสุดคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศทางเครื่องบินก็สามารถกักตัวที่เรือยอชต์ได้เช่นกัน
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต “คาดหวังว่ารัฐบาลจะสานต่อสนับสนุนนโยบายของภูเก็ตอย่างทันท่วงที เพราะภูเก็ตมีความพร้อมที่จะกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ซึ่งตอนนี้ทะเลภูเก็ตสวยกว่าที่เคยเป็นมาเนื่องจากโควิดจำกัดคนมาเที่ยวถึงสองปี ทะเลจึงสวยน้ำใสรวมทั้งฝูงปลาและปะการังที่สวยงามรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนน่ามาท่องเที่ยวมาก
ทั้งนี้ยังรวมถึงหลายเรื่องที่เรียกร้อง คือมีนโยบายอะไรอยากทำอะไรต้องรีบทำหรือจะลุยอะไรต้องรีบลุยอย่ารอ ซึ่งจะทำให้ภูเก็ตเดินหน้าต่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิด-19 ไปได้ ซึ่งวัคซีนที่ขอเป็นเพียงระยะสั้น แต่แผนระยะยาวเป็นเวลาของการพัฒนาเมืองและสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีความพร้อมเพื่อจะไปต่อ ซึ่งต้องลงมือทำก่อนที่จะเกิดปัญหาและทันท่วงที”
ทั้งนี้ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เผยว่า เนื่องจากภูเก็ตมาฐานการท่องเที่ยวที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปรับโครงสร้างและต่อยอดในด้านต่างๆ โดยคิดยุธศาสตร์ “JEMS” แปลว่า “อัญมณี” ขึ้นมาเพื่อพัฒนาต่อยอดคุณภาพการท่องเที่ยว โดยการพัฒนาในด้านต่าง โดย อาหาร การศึกษา ที่พัก ยาการรักษาตัว ความงาม และทางด้านกีฬา “Sport” ซึ่งภูเก็ตเองเหมาะแก่การเป็นเมืองกีฬามากๆ และยังมุ่งเน้นการท่องเที่ยวใหม่ๆ คือการนำเทรนด์กีฬา Surf Skate ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้โดยเปิดตัวสนามแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา และจะมีการจัดในสนามต่อไประหว่างเดือนมีนาคม-พฤศจิกายน 2564 รวมไปถึงจะมีการจัดกิจกรรมสงกรานต์เป็นปีแรกที่จัดขึ้นมาก่อนแบบ new normal เช่น จะมีการนำอาหาร ทะเลมาจำหน่ายในราคาถูกเช่นกุ้งล็อบสเตอร์จากที่ตัวละ 2,000 บาท จะนำมาขายในราคา 200-300 บาท ทูน่า ซึ่งเป็นราคาที่คนไทยสามารถจับต้องได้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถต่อยอดการท่องเที่ยวได้ซึ่งใช้เป็นคุณภาพของการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานทางด้านการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น”
สำหรับภาพรวมจากการประมวลภาพรวมของจังหวัดภูเก็ตปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ประเมินสถานการณ์ในปี 2564 ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม รวมถึงนโยบายและแผนงานเพื่อการฟื้นฟูภูเก็ตในระยะยาว จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ ทั่วโลกโดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดภูเก็ตถึง 14,545,187 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 135,975 คน แบ่งเป็นชาวไทย 26.9% และชาวต่างชาติ 73.1% ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2562 อยู่ที่ 471,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 22,505 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต 5 อันดับแรก คือจีน รัสเซีย ออสเตรเลีย เยอรมัน และอังกฤษ
ปี 2563 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ตเพียง 6.7 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงเหลือ 108,464 ล้านบาท ลดลง75% โดย 91% ของรายได้เกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ก่อนใช้มาตรการล็อคดาวน์ สำหรับสถานที่พักในจังหวัดภูเก็ต ข้อมูลปี 2562 มีโรงแรม 792 แห่ง รีสอร์ท 524 แห่ง เกทส์เฮ้าส์ 407 แห่ง บังกะโล 102 แห่ง แมนชั่น 91 แห่ง อพาร์ทเมนท์ 13 แห่ง และลักษณะอื่นๆ อีก 16 แห่ง รวม 1,945 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักในภูเก็ตทั้งสิ้นเกือบ 100,000 ห้อง นอกจากนี้ยังมีท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว 12 แห่ง มีเรือเข้าออกจังหวัด 2,357 เที่ยว และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้า-ออกท่าเทียบเรือ ทั้งสิ้น 7,856,147 คน
เรื่อง : อรวรรณ เหม่นแหลม