“วาสนา” ตัดพ้อ ซื้อ “มาสด้า” ไม่คุ้มค่าเงิน หลังตัวแทนค่ายรถให้ได้แค่จะดูแลเรื่องการบริการอย่างดีและไม่คิดค่าแรงเมื่อมาซ่อม

“วาสนา นาน่วม” อัปเดตประเด็นดรามา กรณีขายฮอนด้า ซื้อมาสด้า CX5 เมื่อ 2 ปีก่อน กลับพบปัญหามากมาย ล่าสุด เจ้าตัวเผยหลังพูดคุยกับตัวแทนรถยนต์ สรุป ไม่เปลี่ยนรถให้ จะรับผิดชอบแค่การบริการให้อย่างดี ไม่คิดค่าแรงเมื่อมาซ่อม เจ้าตัวเผย ไม่คุ้มค่ากับเงินล้านที่ซื้อรถไป อีกทั้งยังเสียสุขภาพจิต บอกเข้าใจแล้ว ทำไมคดีความระหว่างลูกค้ากับ Mazda ถึงมีมากมาย

จากกรณี นักข่าวสายทหารดัง “วาสนา นาน่วม” ขายฮอนด้าซื้อมาสด้า CX5 เมื่อ 2 ปีก่อน เจอกลิ่นน้ำมันคลุ้ง แบตฯ อ่อนสตาร์ทไม่ติด แถมหัวฉีดน้ำมันพัง ข้องใจสงสัยเอารถเก่ามาขาย ระบุ “รถอาจจะดี แต่เราโชคไม่ดีมาเจอคันนี้”

ล่าสุด วันนี้ (15 มี.ค.) เฟซบุ๊ก “Wassana Nanuam” ของ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้ออกมาอัปเดตเรื่องราวรถยนนต์ของตนเองอีกครั้ง หลังได้มีการพูดคุยกับตัวแทนของรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า โดยได้ระบุข้อความว่า

“จากการพูดคุยกับ ตัวแทน Mazda วันนี้ ด้วยบรรยากาศมิตรภาพ แต่ ทางMazda ไม่ยอมเปลี่ยนรถ ให้ใหม่ เพราะ

1. ถ้าเปลี่ยนให้ เรา แล้ว จะกลายเป็น ข้ออ้าง ให้ลูกค้า ที่รถมีปัญหาคนอื่น ขอเปลี่ยนรถบ้าง (แต่ปัญหา ของเรา น่าจะเยอะกว่า ของคนอื่น มันซ่อมหลายรายการ มากนะตั้งแต่ป้ายแดงเลย)

2. เปลี่ยนรถให้เรา ก็กลัวถูกโจมตีว่า เพราะ วาสนา เป็นนักข่าว เป็นคนดัง ใช่มั้ย เลยรีบเปลี่ยนรถให้ อ้าว! คือ เป็น วาสนา ซวยทั้งขึ้น ทั้งล่อง ..ว่าซั่น !!

เรื่องเปลี่ยนรถ เป็นไปได้น้อยมาก เขาบอก ! เพราะที่ผ่านมา เคยเปลี่ยนให้เฉพาะ รถป้ายแดง และรถที่ซ่อมอะไรไม่ได้แล้ว หาสาเหตุ ไม่ได้ ข้อเสนอของ Mazda คือ จะดูแล เรื่องการบริการให้อย่างดี และไม่คิดค่าแรง เมื่อมาซ่อม และจากนี้ไป คงไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว Mazda พระราม5 นำเอกสาร มายืนยันว่า รถเรา ไม่ใช่รถเก่า ค้างสต๊อก หรือรถที่ขายให้คนอื่น แล้วคืนมา วันที่ผลิต กับ วันที่ส่งให้ลูกค้า อยู่ในเงื่อนไข 60 วัน ตามระเบียบ และไม่ใช่ รถ test drive แต่เป็นปกติที่ ในรถบางล็อทที่มา อาจถูกสุ่ม นำไปขับทดสอบระบบ จึงทำให้ เลขกิโลฯ เป็นหลักสิบ กม.

ส่วน เรื่องกลิ่นน้ำมัน นั้น ทางศูนย์บริการ ได้แก้ไขให้แล้ว ทำอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนกลิ่นที่ยังคงอยู่ อาจเพราะ รถจอดทิ้งไว้ และน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ ที่จอดทิ้ง ไว้หลายวัน ทำให้มีกลิ่นคลุ้ง ออกมา เพราะ เราขับไปแค่ 36,000 กม. ใช้รถน้อยมาก แต่ข้อนี้ เราโต้แย้ง อย่างเต็มที่!! เพราะ รถใช้รถทุกวัน ขับไปทำงานทุกวัน. หยุดแค่ วันอาทิตย์. ขนาด วันหยุดเพิ่ม ในวันธรรมดา ที่ออฟฟิต ให้หยุด เรายังไม่หยุดเลย. หยุดวันอาทิตย์ วันเดียว และเราขับน้อย เพราะ ไม่ได้ไปไหนเลย ขับแค่ บ้าน เมืองนนทบุรี กับ ที่ทำงาน คือ ทำเนียบรัฐบาล และ กองทัพบก และไปทำข่าว เหล่าทัพต่างๆ ในกทม. เท่านั้น จึงใช้น้อย แทบไม่ได้ออกต่างจังหวัดเลย ถึงแปลกใจว่า ทำไม โช๊ครั่ว - คอลย์แอร์เสีย แล้ว ทั้งๆที่ ขับรถ แล้วไม่ได้ไปลุยที่ไหน

ส่วนเรื่อง แบตเตอร์รี่. ยังตรวจสอบ ไม่พบว่า เกิดเพราะอะไร ปกติ แบตฯ 1 ก่อน จะใช้ประมาณ 1ปี-1ปีครึ่ง ไม่เกี่ยวกับ ระบบ istop Mazda บอกว่า อาจเป็นเพราะ เราขับน้อย แล้ว ไม่ค่อยเร่งเครื่อง หรือเปล่า. แบบว่า ขับเอื่อยๆ อะไรงี้.....5555 ปกติ ได้ฉายา “เล็ก Fast” ถนนใน กทม. อาจจะขับเร็วมาก ไม่ได้ แต่ถ้าถนนว่าง หรือรีบไปทำข่าว ไปจัดรายการ งี้ ก็เหยียบ 100-120 เลย ...ประเด็นการขับรถ จึงไม่น่าใช่ ทาง Mazda วิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะระบบการใช้งาน ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่อาจจะใช้แบตฯมาก แต่ ก็เลือก แบตฯ ที่เหมาะกับรถแล้ว คุณภาพดี ก้อนละ 2,400 กว่าบาท ทางMazda ยืนยันว่า มีการเปลี่ยน ปั้มติ๊ก แล้ว เชื่อว่า จากนี้ ไม่มีปัญหา เรื่องดับอีกแล้ว

เราถึงบอกกับ Mazda ว่า. รถ Mazda นั้น อาจจะดี รถสมัยใหม่ ระบบดี ดารเข้าโค้งดี .... แต่ เราโชคไม่ดี มาเจอ รถคันนี้ ที่ปัญหาเยอะ ตั้งแต่ วันแรก ตั้งแต่ รถป้ายแดง กลิ่นน้ำมันคลุ้งนอกรถ ยังไม่หาย กลิ่นแรงน้อยลง และ ความถี่ลดน้อยลง แล้ว เวลา มาที่ศูนย์ฯ ก็ไม่เคย โชยกลิ่น เลย มันน่าแปลก!.... แม้เราจะมีพยาน พร้อมยืนยัน ทุกอย่าง แต่ ทาง Mazda เหมือนจะไม่เชื่อเรา ว่ากลิ่นยังอยู่ คงคิดว่า เพราะเราอยากเปลี่ยนรถ หรือเปล่า เลยอ้างเหตุ ...

คือเราเพิ่งจะโวยตอนนี้ หลังเกิดปัญหา โช๊ค และแอร์ เพราะทำให้เรารู้สึกว่า เราอดทนมานานจนเกินไป ไม่โวยวายร้องเรียนตั้งแต่รถป้ายแดงเราไม่เคยคิด อยากจะเปลี่ยนรถ มาก่อนเลย เพราะ เราผูกพันกับรถ แม้จะมีปัญหา แต่ก็อยู่กันมากว่า 2 ปีแล้ว

เราถึงเสนอไปว่า ถ้าเปลี่ยนรถให้เราใหม่. รถคันเดิมเรา ก็สงสาร เอาไปขาย ใครคงไม่เอา เอามาขายให้เราก็ได้นะ เพราะสงสารรถ. ดังนั้น จึงไม่เคยคิดมาก่อน เรื่อง ขอเปลี่ยนรถ แต่พอ โพสต์เรื่องนี้. มีแต่คนแนะนำว่า ควรขอเปลี่ยนรถ ให้เรา... วันนี้ จึงได้เสนอทาง Mazda ไป. แต่ เขาไม่ตอบสนอง แต่ขอดูแล เรื่องการบริการ อะไหล่ และ ฟรีค่าแรง คืออะไหล่ เราจ่ายไปแล้ว 24,000 บาท สำหรับ ปีที่ 4-5 เพราะรถรับประกันอะไหล่ ใน 3 ปี ... คือเขาให้เราซื้อประกันอะไหล่ ก่อนประกันหมด เลยต้องจ่ายเงินเร็ว แต่อะไหล่ มันครอบคลุม ที่เราจ่ายอยู่แล้ว

การเจรจาวันนี้ จบลงที่ ซ่อมแอร์ เสร็จ และ ตรวจระบบต่างๆ แต่เรื่องกลิ่นน้ำมัน ที่ยังหาสาเหตุอื่นไม่ได้ นอกจาก วิเคราะห์ ว่าเพราะรถไม่ค่อยได้ใช้. ....ซึ่งตรงนี้ วิเคราะห์ผิด เพราะเราใช้รถทุกวัน เป็นอันว่า ปัญหากลิ่นน้ำมัน ยังคงมีต่อไป .....ส่วนปัญหาอื่น ก็แล้วแต่ โชคชะตา ว่า อะไรจะเสีย อีกหรือเปล่า

แค่นี้ มันก็ไม่คุ้มค่า กับเงินล้าน ที่ซื้อรถไป และสุขภาพจิต ที่เสียไป ในเวลา 2 ปีกว่า รถดับกลางถนน และการสูญเสียความมั่นใจ แต่ที่ประเมินค่ามิได้ คือเวลา ที่เสียไป ในการเอารถเข้าซ่อม ก่อนเวลาอันควร นานหลายปี เข้าใจแล้วว่า ทำไม คดีความ ระหว่างลูกค้า กับ Mazda ถึงมีมากมาย และมี กลุ่ม คนที่รถเกิดปัญหา มารวมตัวกัน
ท้ายที่สุด การเป็น วาสนา .....ซวย ทั้งขึ้น ทั้งล่อง !! สู้กัน ต่อไป!!”