“อ.ทวีสุข” ชี้โควิดทำให้ดิสรัปชันเกิดเร็วขึ้น ยกตัวอย่าง “เป๋าตัง” เปลี่ยนโครงสร้างประเทศไทยภายในเวลาแค่ 4-5 เดือน เตือนรัฐบาลประเมินพายุจากนอกประเทศต่ำเกินไปมาก ชี้รอบนี้หนักกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ 5 เท่า ถ้าไม่รีบตีโจทย์ ปลายปีนี้จะรับมือไม่ได้
วันที่ 8 มี.ค. 2564 อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ระบบการเงินโลกหลังโควิด”
โดย อ.ทวีสุขกล่าวในช่วงนึงว่า ดิสรัปชันเกิดมาตั้งแต่ปี 2015 มาเรื่อยๆ แต่โควิดทำให้ดิสรัปชันเกิดเร็วขึ้น ยกตัวอย่างวันนี้ไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จัก ฟินเทค (Fintech) ด้วยแอปฯ เป๋าตัง ก่อนหน้านี้เวลามีการแจกเงิน มักถึงชาวบ้านไม่ครบ แต่อันนี้ได้กันเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนที่ไม่มีโทรศัพท์ก็ใช้บัตรประชาชนได้ และที่ไม่น่าเชื่อแบงก์ที่ดู traditional กลายเป็นคนดิสรัป แม้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่มันมีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ที่สำคัญร้านเล็กๆ แผงลอย สามารถใช้ฟินเทคได้คล่องในเวลาข้ามคืน ฉะนั้น การดิสรัปโครงสร้างของประเทศไทยเปลี่ยนไปหมดแล้ว ภายในเวลาแค่ 4-5 เดือน
อ.ทวีสุขกล่าวอีกว่า ในไทยโควิดน่าจะใกล้จบ เพราะอากาศร้อนมาแล้ว รัฐบาลต้องช่วยให้เร็วที่สุดคืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนที่ลงทุนสร้างโรงแรม โครงการโกดังเก็บหนี้มันช้าไป ที่ผ่านมาแบงก์เล่นนอกทฤษฎีเยอะ ไม่ว่าจะพักชำระหนี้ พักดอกเบี้ย แต่ทั้งหมดนี้ยื้อต่อไปไม่ได้อีก เกินปีนี้มันจะเริ่มก่อปัญหา ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเรายืนระยะอยู่ ข้างในก็แก้กันไป พอแก้ได้ โดยรัฐบาลต้องช่วยเหลือมากกว่านี้ เป็นการช่วยเหลือแบบประคองไม่ให้ล้ม
แต่ที่รัฐบาลประเมินต่ำไปมากๆ คือ พายุจากภายนอก กระแสการทรุดตัวขนาดใหญ่ของประเทศยักษ์ใหญ่หลายๆ ประเทศ เราจะรับมืออย่างไร เราถูกสอนให้เชื่อในระบบ แต่ไม่คิดว่าถ้ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันจะรับมืออย่างไร
ยกตัวอย่างปี 2008 เศรษฐกิจเราแข็งแกร่งกว่านี้เยอะ แต่ทันทีที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ หุ้นเราตกเหลือ 380 จุด หุ้นธนาคารลงหมดเลย ทั้งที่เราไม่ได้เกิดวิกฤต แต่รอบนี้ใหญ่กว่ารอบนั้น 5 เท่า เราจะรับมืออย่างไร แล้วเดือนนี้มันมาเคาะประตูแล้ว ถ้าตีโจทย์ใน 2 เดือนนี้ไม่เห็น ปลายปีนี้จะรับมือไม่ได้