“อแมนด้า” ลุยโครงการ “Have You Listened รับฟังปัญหา-เคียงข้างผู้ป่วยซึมเศร้า” ที่ตัวเองก่อตั้งขึ้นต่อไป แม้ไร้ตำแหน่งทูต ยันไม่เสียใจโดนปลด มองแง่บวกเรื่องดรามาทำให้เสียงเราดังขึ้น ลั่นตนเป็นคนเปิดใจ พร้อมรับฟังทุกคนและให้ใจ 100%
วันที่ 2 มี.ค. 2564 นางปิยาภรณ์ แสนโกสิก และ นายณรงค์ เลิศกิตศิริ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์จัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ พร้อมด้วย น.ส.อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีกรมสุขภาพจิตขอยุติการมอบหมายให้ น.ส.อแมนด้า เป็นทูตด้านสุขภาพจิต ว่า ได้รับทราบการยุติบทบาททูตด้านสุขภาพจิตของอแมนด้าแล้ว และยินดีปฏิบัติตามด้วยความเคารพ ซึ่งทางผู้บริหารบริษัท ทีพีเอ็น และ อแมนด้า ยังคงความสัมพันธ์อันดีกับกรมสุขภาพจิต และพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และร่วมงานกันในอนาคต
ทั้งนี้ ทางบริษัท และ อแมนด้า จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าโครงการ “Have You Listened รับฟังปัญหา-เคียงข้างผู้ป่วยซึมเศร้า” ที่อแมนด้าก่อตั้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน อแมนด้า เผยว่า ตัวเองรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ และอยากจะบอกทุกคนว่า “โครงการ Have You Listened รับฟังปัญหา-เคียงข้างผู้ป่วยซึมเศร้า” เกิดขึ้นมาก่อนที่จะไปเข้าพบกรมสุขภาพจิต และมันเป็นเสียงของหัวใจที่อยากทำจริงๆ เพราะมีประสบการณ์ด้านสุภาพจิตจริงๆ และอยากสานต่อโครงการนี้ให้ทุกคนรู้ว่าเสียงของทุกคนสำคัญ และตัวเองจะฟังเสียงของคน และจะทำโครงการนี้ต่อไป จะทำให้ดีถึงที่สุด และอยากจะบอกว่าไม่ว่าเสียงหรือความคิดเห็นของคุณจะเป็นอะไร ก็พร้อมรับฟัง เพราะว่าฉันจะรับฟังคุณ
ตนอยากสานต่อโครงการ เพจไหนทำเกี่ยวกับสุขภาพจิตอยู่ สามารถติดต่อเข้ามาได้ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ 100% ส่วนตัวไม่รู้สึกเสียใจ ยังทำหน้าที่ต่อไปได้ ถึงแม้ว่าไม่ได้มีตำแหน่งที่กรมสุขภาพจิตให้มา แต่ตนยังมีตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อย่างเต็มร้อย มันเป็นสิ่งที่อยากทำออกมาจากใจจริงๆ ดังนั้น จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด
สำหรับข่าวในวันนี้ ไม่หวั่นว่าจะกระทบต่อการประกวดมิสยูนิเวิร์ส เพราะมองทุกอย่างในแง่บวก ต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสและใช้เสียงของเราที่มันดังขึ้น ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ถึงเวลาที่คนในสังคมจะหันมารับฟังกันอย่างเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง ตนเป็นคนที่เปิดใจในการรับฟัง ไม่ว่าคุณจะมีความคิดเห็นในด้านใดก็ตาม ตนพร้อมเป็นผู้ฟังและให้ใจ 100%
ด้าน นางปิยาภรณ์ กล่าวเสริมว่า ขอท้วงติงคำว่า “ปลด” หรือ “ปลดฟ้าผ่า” จริงๆ แล้ว ทางกรมสุขภาพจิตยังไม่ได้แต่งตั้งอะไรอย่างเป็นทางการเลย เป็นการแต่เพียงว่าเราไปพูดคุยกัน แล้วอยากจะดูว่ามีอะไรที่สานต่อกันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่ว่าไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการนั้น นิยามของตำแหน่งคืออะไร นางปิยาภรณ์ กล่าวว่า มีการคุยกัน ทางกรมสุขภาพจิต บอกว่า จะขออนุญาตเชิญให้อแมนด้าเป็นทูตด้านสุขภาพจิต เข้าใจว่า น่าจะมีมาหลายยุคหลายสมัย ทางกรมน่าจะมีเจตนาที่ดี เชิญคนที่สามารถเป็นกระบอกเสียงได้มาช่วยกันทำตรงนี้ ส่วนตัวคิดว่ามันดีมากๆ มันเป็นประโยชน์กับสังคม ในอนาคตน่าจะได้ร่วมงานกัน เพราะยังต้องขอความช่วยเหลือด้านการแพทย์ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ร่วมงานกันต่อไป กรมสุขภาพจิตพร้อมจะสนับสนุน เราจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เราต้องการองค์ความรู้ เรื่องของการฟัง ถ้าไม่ช่วยคงเป็นไปไม่ได้
“แปลกใจทำไมมีหนังสือแบบนี้ออกไป เพราะเราไม่ได้เป็นคนร้องขอที่จะเป็นอะไรทั้งนั้น เราร้องขออย่างเดียว คือ องค์ความรู้ที่อแมนด้าจะเอามาสานต่อในโครงการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล นั่นคือ หัวใจที่เราบอกด้าว่า เธอทำแบบนี้ต้องเกิดมาสวยอีกร้อยชาติ เมื่อเช้าอแมนด้าโทร.หาพี่ปุ้ยบอกว่า แม่หนูขอโทษนะคะ มันมีเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ตัวเองบอกไม่ต้องขอโทษ เพราะไม่ได้ทำเรื่องอะไรผิด อแมนด้าอยากบอกว่าความสำคัญในใจของหนู คือ หนูจะเสียใจมาก เรื่องนี้ก็ต่อเมื่อกองประกวดไม่เห็นความสำคัญและไม่สนับสนุนกัน อแมนด้า บอกกับตัวเองว่า ต้องการทำตามเสียงของหัวใจ คิดว่ามันเป็นคีย์เวิร์ด วันนี้เป็นตำแหน่งที่น่าภาคภูมิใจพอแล้ว คือ เธอเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งมีความรักในประเทศชาติ รักทุกๆ คน อยากจะส่งพลังให้ทุกๆ คน” นางปิยาภรณ์ กล่าว
สาเหตุหลักที่คนพูดกับว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองนั้น นางปิยาภรณ์ กล่าวว่า ไม่อยากพาดพิง เราอยากไปพูดอะไรที่สร้างความแตกแยก ทางกองประกวดจะไม่พูด เพราะทุกคนมีจุดยืนของแต่ละคนได้ทั้งนั้น แต่ที่พูดคือเราทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกันหมด ส่วนตัวอยากให้ยกหัวโขนออกไป หากเราเป็นทูตหรืออะไรก็ตาม แต่เราไม่ปฏิบัติจากหัวใจของเราหรือทำจริงๆ เอามา 800 ตำแหน่ง ก็ไม่มีประโยชน์ ขอให้อแมนด้าทำในสิ่งที่ตกลงกับตัวเอง ตกลงกับสังคมถือว่าเจ๋ง จริงๆ แล้วเรื่องการเมืองทุกคนก็เกี่ยวข้องหมด แต่ที่ผ่านมา อแมนด้าได้โพสต์จุดยืนแล้ว อยากขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่อินบ็อกซ์เข้ามามากมายให้กำลังใจทั้งอแมนด้าและกองประกวด