เพจดังวิเคราะห์กรณีสะเทือนขวัญ น้องนิหน่าถูกคนร้ายฆ่าข่มขืน เผยผู้เสียชีวิตแต่งกายมิดชิดรัดกุม แต่คนร้ายเห็นแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงวางแผนทำร้าย ข่มขืน และฆ่าชิงทรัพย์ วอนหยุดโทษเหยื่อเวลาเกิดคดีข่มขืนเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของเหยื่อ เพราะต่อให้เหยื่อใส่เสื้อสี่ห้าชั้น คนร้ายก็ทำอยู่ดี เนื่องจากไม่มีความยับยั้งชั่งใจ
จากกรณีพบศพน้องนิหน่า อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ เสียชีวิตอยู่ในร่องน้ำกลางถนนสายเอเชีย เส้นทางหาดใหญ่-บางกล่ำ พื้นที่หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 27 ก.พ. และโดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับคนร้ายที่ก่อเหตุเหี้ยมโหดได้ คือ นายประถม เอียดขาว อายุ 49 ปี หรือ “บังหมัด กงหรา” ซึ่งรับสารภาพสิ้น กลับจากดื่มเหล้ากับเพื่อน พบ “น้องนิหน่า” ในปั๊มน้ำมันจึงเกิดอารมณ์ ได้ขับรถดักรอก่อนเฉี่ยวตกคูกลางถนน แล้วลงไปชกหน้าท้อง 3 ครั้ง ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วชิงเอากระเป๋าสะพายของน้องนิหน่า พร้อมเงินสด 1,300 บาท จากนั้นใช้เหล็กสำหรับเปลี่ยนล้อรถตีที่ใบหน้าของน้องนิหน่า 2-3 ครั้ง จนเสียชีวิต แล้วได้นำรถจักรยานยนต์ของน้องนิหน่า มาทับศพของผู้ตายบริเวณใบหน้า และลำตัวท่อนบนเพื่ออำพรางว่าเป็นการเกิดอุบัติเหตุรถตกคูเสียชีวิต ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>>จับ “บังหมัด” สารภาพสิ้นฆ่าข่มขืน “น้องนิหน่า” สุดเหี้ยม ขับรถดักรอเฉี่ยวตกคลองก่อนลงมือ
วันที่ 1 มี.ค. เพจ “Drama-addict” หรือ จ่าพิชิต ขจัดพาลชน ชื่อจริงคือ นพ.วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์ประจำโรงพยาบาลเกาะลันตา อ.เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ได้โพสต์ระบุข้อความว่า จากกรณีสะเทือนขวัญดังกล่าว ได้วิเคราะห์ถึงกรณีที่มักเกิดข้อถกเถียงว่าเหยื่อที่ถูกข่มขืนบางรายมักแต่งกายล่อแหลมเสี่ยงต่อการถูกข่มขืน หรือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะต่อให้เหยื่อแต่งกายแบบไหนก็ไม่ควรต้องตก เป็นเหยื่อการถูกข่มขืน โดยระบุข้อความว่า “กรณีของน้องนิหน่า นักเรียน ม.3 ที่ถูกคนร้ายฆ่าข่มขืน เคสนี้อยากให้คนที่ชอบโทษเหยื่อเวลาเกิดคดีข่มขืนเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของเหยื่อ ได้เห็นว่า น้องนิหน่าผู้เสียชีวิตแต่งกายมิดชิดรัดกุมมาก แต่คนร้ายเห็นแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงวางแผนทำร้ายน้องเขาและข่มขืนฆ่าชิงทรัพย์
ซึ่งชุดของน้องนิหน่าผู้เสียชีวิต ก็เหมือนกับชุดของเหยื่อในคดีข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศอีกจำนวนมากในประเทศไทยและทั่วโลก นั่นคือ เป็นชุดปกติทั่วไป ไม่ใช่ชุดโป๊เปลือยใดๆ เลยเหมือนที่เคยมีการจัดนิทรรศการ เอาชุดของเหยื่อคดีข่มขืนจากทั่วโลก มาให้คนที่ยังติดอยู่กับมายาคติได้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไงประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ชุดที่เหยื่อใส่ ต่อให้เหยื่อใส่เสื้อทับกันสี่ห้าชั้น แต่ถ้าคนร้ายมันจะทำ มันก็ทำอยู่ดีประเด็นมันอยู่ที่ความยับยั้งชั่งใจของคนร้ายต่างหาก