เกิดดรามาหลังโซเชียลปล่อยภาพป่าบางกลอยบน 100 กว่าไร่ มีสภาพถูกบุกรุกเผาป่าอย่างหนัก กลายเป็นข้อถกเถียงตามมาหลายฝ่าย บางส่วนชี้เป็นการทำลายป่าต้นน้ำ ด้านอีกฝ่ายชี้วิถีชนบทของชุมชนกะเหรี่ยง ไม่เป็นการทำลายธรรมชาติแต่อย่างใด วอนรัฐบาลให้ความเป็นธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย
จากกรณีดรามาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรี บุกรุกป่าบางกลอยบน 100 กว่าไร่ ซึ่งล่าสุด ได้เกิดแฮชแท็ก #saveแก่งกระจาน #saveบางกลอย ขึ้นมา และมีข้อถกเถียงตามมามากมายในโลกโซเชียล โดยบางส่วนชี้ว่าลักษณะดังกล่าวคือ การทำไร่หมุนเวียนเป็นวิถีชนบทของชุมชนกะเหรี่ยง กลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งทำไร่ลักษณะนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ และไม่เป็นการทำลายธรรมชาติแต่อย่างใด ด้านอีกฝ่ายโต้กลับว่า การทำไร่ดังกล่าวเป็นการบุกรุกป่า ผิดกฎหมาย หากปล่อยไว้จะเป็นการทำลายป่าต้นน้ำเพชรบุรีอย่างแน่นอน และควรเร่งหาทางออก และแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งเบื้องต้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อให้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เฟซบุ๊ก “Tinnapop Sangthong” ซึ่งระบุตำแหน่งว่าเป็นนักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ภาพ หมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ในพื้นที่ใกล้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยระบุว่า “แล้วจะไม่ให้พวกผมดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจได้อย่างไร #saveแก่งกระจาน #saveบางกลอย #ป่าต้นน้ำ”
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก “วัตร วนาวี” ได้โพสต์ภาพความเสียหายของป่าโป่งลึก-บางกลอย จังหวัดเพชรบุรี เช่นกัน โดยระบุว่า “นี่คือสภาพผืนป่าแก่งกระจาน ในเวลานี้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเพชรบุรีอันศักดิ์สิทธิ์ มันเกิดจากการทำลายล้างจากกลุ่มคนที่อ้างว่าอยู่กับป่า ดูแลป่า มันเกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ถ้ายังเป็นแบบนี้ เราจะทำยังไงกับกลุ่มคนพวกนี้ดี”