เพจ “Anti-Fake News Center Thailand” ออกมาโพสต์ข้อควมเตือนภัยใกล้ตัวเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ทำแล้วมีความเสี่ยงทำให้โทรศัพท์มือถือถูกแฮก สายฟรี WI-FI เสี่ยงโดนขโมยข้อมูลส่วนตัว
วันนี้ (20 ก.พ.) เพจ “Anti-Fake News Center Thailand” ได้เผยข้อมูลจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับ 6 พฤติกรรมที่ทำแล้วโทรศัพท์อาจถูกแฮกข้อมูลได้
1. มือถือไม่มีรหัสผ่าน มีคนพูดว่ามือถือไม่ได้มีข้อมูลสำคัญอะไร ล็อกทำไมให้ยุ่งยาก ซึ่งไม่จริง เพราะในมือถือทุกวันนี้มีข้อมูลส่วนตัว การเงิน หรือแม้กระทั่งใช้เพื่อการยืนยันรหัสผ่าน 2 ชั้น จึงควรตั้งรหัสผ่านมือถือเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้โดยง่าย
2. ไม่ใช้ระบบยืนยันตน แบบ 2 ปัจจัย แม้จะต้องเพิ่มขั้นตอนการยืนยันตัวให้มากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยที่มากขึ้นด้วย บางบริการที่มีความสำคัญของข้อมูลหรือต้องการความปลอดภัยที่มากขึ้นควรทำการเปิดระบบยื่นยันตนแบบ 2 ปัจจัย มันไม่ยากอย่างที่คิด
3. ไม่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ใน GOOGLE PLAY หรือ APP STORE ควรติดตั้งแอปพลิเคชันเฉพาะจาก GOOGLE PLAY หรือ APP STORE เท่านั้นเพราะ OFFICIAL STORE จะมีการตรวจสอบแอปพลิเคชันที่ชัดเจน ช่วยให้มั่นใจได้ในระดับนึงว่าจะไม่เจอมัลแวร์ และที่สำคัญควรมาจาก DEVELOPER ที่น่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน
4. ไม่ลง Antivirus ติดตั้งชอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยในมือถือ ควรเลิกความเชื่อผิดๆ ที่บอกว่าจะทำให้มือถืออึด และช้า ออกไปมีป้องกันไว้ดีกว่ามือถือติดมัลแวร์แบบไม่รู้ตัวจะดีกว่า
5. ไม่อัปเดตซอฟต์แวร์มือถือ การกดอัปเดตมือถือที่คุณใช้ คืออีกหนึ่งตัวช่วยอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่ายมือถือ แก้ปัญหาช่องโหว่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเวอร์ชันเดิม
6. ชอบใช้ WI-FI สาธารณะ จงอย่าไว้ใจ WIFI ฟรี ที่เปิดให้ใช้โดยไม่มีการตรวจสอบด้านความปลอดภัย เพราะอาจเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาดักจับข้อมูลฝังมัลแวร์ หรือขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ ถ้าเลี่ยงไม่ได้อาจต้องใช้งานผ่าน VPN