นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เผยถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุรถกู้ภัยฝ่าไฟแดง ชนกระบะกลางสี่แยกประตูเมืองขอนแก่น ขณะนี้ สสจ.ขอนแก่น ได้ตั้งทีมสอบสวนและลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุแล้ว เตือน หน่วยงานที่มีรถพยาบาล รถกู้ภัยกู้ภัยที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ได้ตระหนักถึงกฎระเบียบข้อบังคับ โดยเฉพาะกับการขับรถในความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง การไม่ฝ่าสัญญาณไฟจราจรโดยเด็ดขาดและการเปิดเสียงสัญญาณไซเรน
อ่านข่าวประกอบ - ชนสนั่น! แยกประตูเมืองขอนแก่น รถกู้ภัยรีบนำคนป่วยส่ง รพ.ถูกกระบะชนกลางสี่แยก
จากเหตุการณ์หน่วยกู้ภัยที่จังหวัดขอนแก่น รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ระหว่างขับรถข้ามทางแยกตัดถนนมิตรภาพ เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉิน ถูกรถยนต์กระบะที่ขับมาตามสัญญาณไฟเขียวพุ่งชนกลางคันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์อุบัติเหตุดังกล่าว ว่า นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา ขณะนี้ได้มีทีมสอบสวนของ สสจ.ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุ และเข้าตรวจรถที่เก็บไว้ยังจุดเก็บรักษารถ พร้อมทั้งตรวจสอบคลิปที่มีการเผยแพร่ ถึงนาทีที่รถกู้ภัยฝ่าไฟแดงแล้ว จากนั้นจะเสนอข้อมูลไปยังคณะอนุกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัด และสรุปสำนวนส่งต่อไปที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินอีกครั้ง ส่วนผลจะออกมาในลักษณะใดนั้นยังไม่สามารถที่จะตอบได้ในขณะนี้
ทั้งนี้ พบว่า ระเบียบของรถกู้ภัยระบุต้องใช้อัตราความเร็วที่ไม่เกิน 90 กม.ต่อชั่วโมง และห้ามฝ่าสัญญาณไฟจราจรโดยเด็ดขาด ก่อนที่จะออกทำงาน ต้องมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทุกปีพนักงานทุกคนจะต้องตรวจสุขภาพจิตด้วย
โดยรถกู้ภัยคันดังกล่าวขึ้นตรงกับมูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ โดยขึ้นทะเบียนกับระบบการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุข หรือรถพยาบาลในสังกัดโรงพยาบาลของรัฐ แต่ระเบียบข้อบังคับทั้งในส่วนของรถในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและรถในสังกัดของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินนั้นไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะกฎเหล็กที่ผู้ปฏิบัติและหน่วยงานที่เข้าร่วมจะต้องปฏิบัติตามคือ รถทุกคันต้องขึ้นทะเบียน และเข้ารับการตรวจสอบมาตรฐานตามที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินกำหนดการให้บริการผ่านระบบสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข
อย่างไรก็ตาม สสจ. ได้ออกมาเตือนทุกหน่วยงานที่มีรถพยาบาล รถกู้ภัยกู้ภัยที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ให้ตระหนักถึงกฎระเบียบข้อบังคับ โดยเฉพาะกับการขับรถในความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง ไม่ฝ่าสัญญาณไฟจราจร การเปิดเสียงสัญญาณไซเรน และไฟฉุกเฉินตลอดระยะเวลาของการออกปฏิบัติหน้าที่ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก