จากกรณีที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบางบัวทอง ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนโครงการเราชนะ เป็นวันที่ 2 มีผู้มาเข้าคิวรอประมาณกว่า 200 คน โดยมีการเปิดให้ลงทะเบียนเราชนะตั้งแต่วันที่ 15 -25 ก.พ. 64 บรรยากาศทั่วไปเรียบร้อยดีมีผู้มานั่งรอใช้สิทธิอย่างเป็นระเบียบโดยวันนี้เปิดรับผู้มาใช้สิทธิจำนวน 200 คน
วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางสุนันทา แสงเอม อายุ 53 ปี เป็นแม่บ้านอยู่เทศบาลนครนนทบุรี และ น.ส.ขวัญไพร แสงเอม อายุ 30 ปี บุตรสาว ทำงานอยู่ที่เดียวกัน เดินทางมาพร้อมกับ นายจรัญ แสงเอม อายุ 60 ปี ที่เป็นผู้ป่วยโรคไตป่วยติดเตียงมากว่า 12 ปี
ขณะนอนอยู่ในรถซาเล้งภายในใต้ถุนอาคารที่มีอากาศร้อนเป็นที่อนาถใจแก่ผู้พบเห็น โดยมีนางสุนันทาที่เป็นภรรยาคอยเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวอยู่ตลอดเวลา มี น.ส.ขวัญไพร นั่งเซ็นเอกสารแทนอยู่ข้างๆ เพื่อรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเอกสารปั๊มลายนิ้วมือก่อนจะนำบัตรประชาชนมาสแกนเพื่อยืนยันตัวตน
น.ส.ขวัญไพร กล่าวว่า ทางธนาคารบอกว่า ต้องพาพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงมาด้วย ทีแรกตนเข้าใจว่ามาลงทะเบียนแทนกันได้โดยที่ไม่ต้องเอาตัวผู้ป่วยมา แต่ทางธนาคารบอกว่าให้เอาผู้ป่วยมาสแกนหน้าด้วย ซึ่งมันลำบากมาก ตนได้ข่าวว่าทางรัฐบาลบอกว่าจะช่วยเหลือทำให้ผู้ป่วยทุพพลภาพ ผู้ป่วยพิการที่เดินทางไม่ได้ และผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งทางรัฐบาลเปิดให้ทำตั้งแต่วันที่ 15-25 กุมภาพันธ์ แต่ทางรัฐบาลไม่มีมาตรการรองรับสำหรับคนที่เป็นผู้ป่วย ผู้พิการ หรือผู้ที่เดินทางมาลงทะเบียนไม่ได้หรือเดินทางมาด้วยความยากลำบากเหมือนอย่างครอบครัวของตน หลังจากนี้ ถ้าได้เงินจากตรงนี้ ก็คงจะไปซื้อของใช้ส่วนตัว ให้กับพ่อ อย่างเช่น แพมเพิร์ส แอลกอฮอล์ และสำลี เพราะพ่อเป็นผู้ป่วยโรคไตต้องคอยเช็ดทำความสะอาด
นางสุนันทา ภรรยาของผู้ป่วย กล่าวว่า ตนลำบากมาก หลังจากต้องนำผู้ป่วยเดินทางออกมาจากบ้าน เพราะแกเดินไม่ได้ ต้องอุ้มออกมากว่า 1 กิโลเมตร เพื่อมาใส่รถซาเล้งถ้าเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลช่วยหาวิธีแบบไม่ต้องนำผู้ป่วยออกมาแบบนี้ เพราะมันยากลำบากมาก