อาจารย์ ม.ดัง จ.ชลบุรี หัวร้อน ทำร้ายลูกหน้าปูดบวม เพราะทำการบ้านไม่ได้ ภรรยาทนไม่ไหวถ่ายคลิปส่ง เจอซ้อมด้วยเจ็บหนัก คิ้วแตก เลือดอาบหน้าอีกคน ภรรยาแจ้งความเอาผิดแล้ว ล่าสุด อาจารย์เข้ามอบตัว พร้อมรับผิดสารภาพไม่ได้ตั้งใจทำร้ายลูกและภรรยา ด้านทางมหาวิทยาได้ให้ยุติการสอนไปก่อน
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. เพจ “หนังสือพิมพ์ข่าวชลออนไลน์” ได้เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย ภายในหมู่บ้านไพรเวซี่ หมู่ 6 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบหญิงอายุ 41 ปี สภาพคิ้วขวาแตก เลือดอาบหน้า และบุตรสาว อยู่ในสภาพตาบวมปูด รวมทั้งลูกชาย หลังถูกผู้เป็นพ่อ และเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาฯ ปฐมพยาบาล ก่อนพาทั้งหมดเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายดี
จากการสอบสวนทราบว่า อาจารย์ ม.ดัง คนดังกล่าว ก่อเหตุทำร้ายลูกสาว ขณะสอนการบ้าน แล้วทำไม่ได้ จากนั้นภรรยาได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน จึงลงมือทำร้ายภรรยาจนบาดเจ็บเลือดอาบบริเวณใบหน้า เพราะโมโหที่ภรรยาถ่ายคลิปภาพเหตุการณ์ไว้
ล่าสุด ผู้เป็นพ่อ นายศศิวุฑฒ์ ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่า ตนสอนการบ้านลูก แต่ลูกไม่ตั้งใจ เลยโมโห ด้วยความเป็นพ่อก็อยากให้ลูกเรียนเก่ง ส่วนของที่ปาไปเป็นของเล่น ไม่ตั้งใจจะให้โดนลูก ซึ่งภรรยาได้นำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิป ไม่คิดว่าจะส่งไปในกลุ่มของผู้ปกครอง จนทำให้เป็นเรื่องบานปลาย อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายหญิงต้องการขอเลิก ก็พร้อมจะเลิก
สำหรับความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว ดร.เด่นชัย ปราบจันดี รองผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาขั้นพื้นฐาน (IEP) มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยว่า “เมื่อช่วงเช้าได้เข้าพบ รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดี ม.บูรพา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกับ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกฎหมาย ทาง รศ.ดร.วัชรินทร์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการในการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นในบ่ายวันนี้ เบื้องต้นจะดำเนินการโดยการเรียกตัว อจ.มาสอบสวนข้อเท็จจริงและอาจจะมีบทลงโทษ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยบูรพาไม่ได้นิ่งนอนใจ สำหรับ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่อาจารย์สังกัดอยู่ ทาง ดร.สุชาดา รัตนวาณิชย์พันธุ์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ฯ ได้ให้ข้อมูลว่าตอนนี้ให้อาจารย์งดการสอนไปก่อน โดยให้อาจารย์คนอื่นมาสอนแทน โดยปกติอาจารย์คนที่เป็นข่าวนั้นสอนนักศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี รับรู้ข่าวเรื่องนี้ครั้งแรก ก็รู้สึกช็อก เพราะเคยร่วมงานกัน โดยยืนยันว่า อาจารย์ท่านดังกล่าวไม่มีวี่แวว และก่อเกิดเหตุการณ์ในเรื่องแบบนี้ขึ้นมา จึงได้สอบถามไปทางภรรยา จึงได้รู้ว่าเป็นแบบนี้มาประมาณ 1 ปีแล้ว เลยช็อกไปอยู่ว่าเขาเป็นแบบนี้ ทางมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ดำเนินการโดยเร็วไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วน อจ.ท่านที่ก่อเหตุนั้นก็ยุติการสอน ก็อาจจะทำงานในรูปแบบ work from Home หรือทำงานวิจัยไปก่อน”