นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี โพสต์ภาพร่วมงานฌาปนกิจแม่ของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ หาหอยเสียบที่ชายหาดบางแสน ต่อมาแม่เสียชีวิต โดยช่วยเงินเยียวยาเดือนละ 3,000 บาท
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ออกไปมาหาหอยเสียบบริเวณหาดแหลมแท่น จ.ชลบุรี นำไปขายหาเงินใช้จ่ายและรักษาแม่ป่วยเป็นมะเร็ง จนชาวเน็ตชื่นชมความกตัญญู ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ม.ค. แม่ของเด็กหญิงได้เสียชีวิตลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 ม.ค. เฟซบุ๊ก “ณรงค์ชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม” หรือนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพภายหลังไปร่วมงานฌาปนกิจแม่ของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ทราบชื่อว่า ด.ญ.สุธิดา สายโพธิ์ โดยได้ให้เงินช่วยเหลือเด็กหญิงเดือนละ 3,000 บาท พร้อมเล่าว่า “จากข่าวโซเชียลมีเดียเมื่อ 2 วันก่อน กรณีที่เด็กหญิง 10 ขวบ หาหอยเสียบที่ชายหาดบางแสน เพื่อหาเงินรักษาโรคมะเร็งให้แม่ และรักษาจนคุณแม่น้องได้จากไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
วันนี้ผมได้ไปเป็นประธานงานฌาปนกิจศพให้กับคุณแม่ของน้องสุธิดา สายโพธิ์ และได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องและญาติผู้ใหญ่ของน้องสุธิดาด้วย จึงอยากจะขอเล่าให้ฟังนะครับ
น้องสุธิดา เป็นลูกสาวคนเล็ก มีพี่สาวอายุ 22 ปี มีครอบครัวและทำงานแล้ว ที่ร้าน 7-11 แถวๆ อมตะนคร ชลบุรี น้องอาศัยอยู่กับแม่ที่บางแสน แม่มีอาชีพค้าขายของที่ระลึกที่บางแสน ช่วงหลังแม่ป่วยเป็นมะเร็ง แม่เลยไม่ค่อยได้ไปขายของ ส่วนพ่อไม่มีใครพูดถึง ทราบมาว่าทำงานรับจ้าง และไม่แน่ใจว่ายังอยู่ด้วยกันหรือไม่
น้องมีคุณป้าซึ่งสามีทำหอพักอยู่ที่บางแสน พอมีรายได้ คอยดูแลบ้างตามสมควร และยังมีญาติผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งญาติผู้ใหญ่น้องก็เป็นแม่ค้าชายหาดบางแสนครับ รู้จักกันดีครับ ตอนนี้น้องสุธิดาย้ายมาอยู่กับคุณป้า ชื่อ ป้าเปิ้ล มีอาชีพค้าขาย บ้านอยู่ใกล้ๆ บ้านผมเลย น้องสุธิดาเองถือว่าขยันและมีหัวการค้า น้องหาหอยเสียบแล้วโพสต์ขายออนไลน์ด้วยครับ คุณป้าบอกว่าที่โพสต์คือไม่ได้ต้องการเป็นข่าวแค่อยากให้คนมาช่วยซื้อสินค้าเท่านั้น จะได้ขายดีๆ แต่สื่อก็ไปไกลมากครับ
น้องสุธิดา เรียนที่โรงเรียนบ้านแหลมแท่น ต.แสนสุข จ.ชลบุรี ในเขตเทศบาลที่ผมดูแลอยู่ ได้พบท่านผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว และ ผอ.โรงเรียนจะให้การดูแลอย่างดี ทราบมาว่ามีผู้ใจบุญได้โอนเงินเข้าบัญชีของคุณป้าพอสมควรแล้ว ตัวผมเองรับอาสาช่วยเงินค่าครองชีพให้น้องสุธิดาเป็นเงิน 3,000 บาท ทุกๆ เดือน โดยจะให้จนกว่าน้องเขาจะทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ และจะสนับสนุนค่าเล่าเรียนด้วยหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว
สำหรับท่านอื่นที่ต้องการร่วมสมทบทุน ก็โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของน้องได้เลย ตามรูปภาพครับ การควบคุมดูแลการใช้จ่ายให้เป็นหน้าที่ของญาติครับ
ส่วนผมคงจะเจอน้องสุธิดาบ้าง เพราน้องจะมารับเงินทุกเดือน เอาไว้มีความคืบหน้าจะคอยมาเล่าให้ฟังนะครับ ปัจจุบันก็ได้ให้ความช่วยเหลือลักษณะนี้อยู่แล้วหลายราย ทำมานานแล้ว เพียงแค่ไม่ได้บอกใคร การทำบุญ ใครทำใครได้ อย่างน้อยก็สุขใจ ไม่ได้ต้องการการชื่นชมจากใคร แต่อยากให้คนที่มีศักยภาพให้ช่วยกันดูแลผู้ด้อยโอกาสกันนะครับ ทำเท่าที่ทำได้และไม่ทำให้ใครเดือดร้อนครับ ขออนุโมทนากับทุกท่านครับที่ช่วยเหลือน้องสุธิดา นะครับ”