ขึ้นชื่อว่าอาหารไทยโบราณ แม้จะหาทานได้ยากในปัจจุบัน แต่หากมีโอกาสเข้า "พระนคร" แล้วไปเยือนในย่านเก่าแก่อย่างแพร่งภูธร "อัญญา ออเทนติก ไทย คุยซีน" คือร้านอาหารไทยน้องใหม่ที่อร่อยบอกต่อ โดยแต่ละเมนูล้วนหากินยาก มีครบทั้งเครื่องคาวหวาน อิ่มเอมเปรมใจสไตล์ชาววังในบรรยากาศร้านที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและความเป็นไทยสมัยใหม่ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เรียบหรูดูคลาสสิค
ชื่อ "อัญญา" เป็นชื่อพยางค์ท้ายของ "วรัญญา ทิพยภัณฑ์" เจ้าของร้านที่มีความตั้งใจเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารไทยให้เป็นที่ประจักษ์ รวมเมนูคาวหวานหาทานยากที่มีมากกว่า 80 เมนู ถูกปรุงอย่างประณีต พิถีพิถันผ่านการรังสรรค์ด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนของ "เพ็ญนภา อินทร์เจเนทร์" หรือ "นัท" เชฟมากฝีมือในวัย 31 ปีที่หลายคนยกนิ้วให้กับความอร่อยจัดจ้านยืนหนึ่งในย่านนี้
เริ่มกันที่เมนูทานเล่นชุดใหญ่ที่รวมอาหารว่างของไทยโบราณไว้หลากหลาย ประกอบด้วย ม้าฮ่อ ลักษณะเป็นไส้รสหวานเค็มรสชาติคล้ายไส้สาคูวางบนผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสับปะรดหั่นชิ้นขนาดพอคำ ตกแต่งด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าซอยอย่างสวยงาม, หมูสร่ง ที่นำหมูมาบดละเอียดปั้นเป็นก้อนกลม นุ่งโสร่งด้วยการพันด้วยเส้นหมี่ซั่วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ หอมอร่อยน่ารับประทาน, ถุงทอง กรอบหอม ไส้หวานเค็มกำลังดี, ส่วนกุ้งห่มสไบตัวกำลังดี กรอบอร่อยเคี้ยวเพลินๆ, และทีเด็ดสุดท้ายคือ หมี่กรอบสูตรอัญญา ทางร้านไม่ใส่ไข่ เน้นชูกลิ่นน้ำส้มซ่า เสริมรสชาติให้โดดเด่น กินแล้วหอมชื่นใจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน
มาถึงเมนูดาวเด่นประจำร้าน "ข้าวแช่ชาววัง" แม้จะนิยมทานกันในช่วงหน้าร้อน แต่ทางร้านมีพร้อมเสิร์ฟตลอดปี ประกอบด้วย ข้าวสวยที่ไม่ใช่หุงจากหม้อไฟฟ้าธรรมดา แต่จะต้องผ่านกรรมวิธีตั้งแต่เลือกเม็ดข้าวที่สวย จากนั้นนำมาอบด้วยควันเทียนและลอยด้วยน้ำดอกมะลิ ทำให้มีกลิ่นหอม
ข่าวแช่ของที่นี่ เม็ดข้าวจะนิ่มกว่าที่อื่น กินคู่กับเครื่องกับข้าวต่างๆ เช่น ลูกกะปิทอดที่ทอดมาแบบนุ่มลิ้น ชิ้นพอดีคำ นอกจากนั้นยังมีหัวหอมทอด หมูหวานฝอย ไชโป๊ผัด และอื่นๆ ที่ทำออกมาได้อร่อยกลมกล่อม
เมนูต่อมา หากใครชื่นชอบปลาสลิด แนะนำ "ต้มโพล้งปลาสลิด" สูตรของทางร้านจะใช้พริกไทยดำแทนพริกไทยขาว นำไปคั่วก่อนแล้วเอาไปตำ ใส่หอมแดง รากผักผี กะปิย่างห่อใบตอง โขลกจนเป็นเครื่องแกง ใส่เนื้อหมูสามชั้นที่ทอดพอสะดุ้ง ตามด้วยปลาสลิดทอดลงไปในน้ำสต๊อกไก่และกุ้ง ตามด้วยเครื่องแกง ได้ความเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก ให้รสชาติคล้ายต้มส้มที่เปรี้ยวละมุนแบบไทยๆ
อยากเผ็ดร้อนขึ้นมาหน่อย ต้องลอง "แกงเหลืองต้นคูนปลากระพง" แกงใต้กลิ่นอายชาววังรสจัดจ้านถึงเครื่องถึงรส
เช่นเดียวกับ น้ำพริกมะม่วงปลาสลิดฟู เมนูนี้ข้าวสวยจานเดียวไม่เคยพอ ทางร้านใช้เนื้อปลาสลิดทอดกรอบจนฟูคลุกเคล้ากับน้ำพริกใส่มะม่วงสับลงไป เป็นเมนูที่หอม กรอบ ทานคู่กับปลาสลิดทอดและผักสดเพิ่มความอร่อยแถมดีต่อสุขภาพ
อีกหนึ่งเมนูที่เสิร์ฟมาอย่างสวยงามคือ "ข้าวอบสับปะรด" สีสวยเครื่องจัดเต็ม กลิ่นหอมลอยฟุ้งจนอดใจไม่ไหว ด้านรสชาติต้องบอกว่า อร่อยกลมกล่อม หอมหวานสับปะรด โดยสับปะรดทางร้านบอกว่า เป็นเนื้อดีเกรดพรีเมียมจากไร่สับปะรดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ใครสายเนื้อไม่ควรพลาดเมนูนี้ "สเต็กเนื้อจิ้มแจ่ว" เป็นเนื้อออสเตเรียนเกรดพรีเมียม หมักถึงเครื่อง ย่างอุ่นๆ จากเตา ทำออกมาสุกกำลังพอดี อร่อยนุ่มลิ้น หั่นชิ้นพอดีคำจิ้มน้ำจิ้มแจ่วอร่อยแซ่บเวอร์ หรือจะทานคู่กับตำแตงน้ำปลาร้าที่เสิร์ฟมาในชุดเดียวกันก็อร่อยแตกต่างไปอีกแบบ
อีกหนึ่งเมนูชื่อแปลกอ่านแล้วสะดุ้ง "เห่าดง" ซึ่งมีให้เลือกทั้งเนื้อและหมู รสชาติเปรี้ยวแซ่บ คลุกเค้าไปด้วยพริกแห้ง ข้าวคั่ว ให้รสชาติ กลิ่นหอมของใบยี่หร่า และมะกรูด อร่อยร้อนแรง กินเปล่าๆ ก็อร่อย กินกับข้าวหรือข้าวเหนียวก็สุดจี๊ด
มากันที่เมนูไข่ อร่อยง่ายๆ แต่ไม่ธรรมดา เพราะทางร้านใส่สมุนไพร และโรยหน้าด้วยหนังไก่กรอบ เจียวมาแบบฟูๆ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยฟินเกินบรรยาย
ก่อนปิดท้ายกันด้วยเมนู "ยำส้มโอกุ้งสด" อาหารทานเล่นรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ทางร้านใช้เนื้อส้มโอหวานฉ่ำ นำมาคลุกเคล้ากับน้ำยำรสเด็ด ใส่กุ้งสดลวกเนื้อหวาน โรยหอมแดงเจียว กินแล้วช่วยปลุกความสดใสในตัวได้ดีทีเดียว
ด้านเครื่องดื่ม เมนูเด่นของร้าน คือ น้ำส้มมะปี๊ดบ๊วย รสหวานอมเปรี้ยว อุดมด้วยวิตามินซี ดื่มแก้กระหาย คลายร้อน แถมดีต่อสุขภาพ หรือจะลองสั่งน้ำมะกรูดน้ำผึ้งมาลองชิมดูก็สดชื่นไม่แพ้กัน
ส่วนของหวานมีให้เลือกหลากหลาย มาทั้งทีอยากให้ลอง "ส้มฉุน" ผลไม้ลอยแก้วชาววัง มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำและผิวของผลส้มซ่า ทำให้ได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ รับประทานเย็น ๆ กับน้ำแข็งในช่วงหน้าร้อน โดยทางร้านจะเลือกใช้ผลไม้ตามฤดูกาลมาเป็นส่วนประกอบด้วย หรือใครชอบขนมหวานแบบไทยๆ "ไอศกรีมฟักทองแกงบวด" ก็ดูน่าสนใจมาก เพราะเนื้อไอศครีมของที่นี่ ละมุมนุ่มลิ้น ให้ความหวานมันของกระทิ และที่เด็ดกว่านั้นคือ "ไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วง" หอมหวานกลมกล่อมได้รสของมะม่วงเข้มข้น
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเมนูที่ไปลองมาแล้วว่าอร่อย ยังมีอีกหลายเมนูที่อยากให้ไปลองด้วยตัวเอง ร้านตั้งอยู่ถนนบำรุงเมือง ตรงข้ามกระทรวงมหาดไทย หน้าโรงแรมไม่มีที่จอดรถ สามารถจอดได้ที่ที่รับฝากรถวัดมหรรณพารามวรวิหาร หรือที่รับฝากรถศาลเจ้าพ่อเสือ
กรณีเดินทางโดย MRT ลงสถานีสามยอด ออกทางออก 3 และเดินมาทาง ถ.อุณากรรณ ผ่านเสาชิงช้า มาทางแยกสี่กั๊ก ร้านอยู่ตรงข้ามกระทรวงมหาดไทย เปิดจันทร์-ศุกร์เวลา 7:00- 21:00 น. และเสาร์-อาทิตย์เวลา 10:30- 21:00 น. ติดต่อสอบถามได้ที่ 081-344-9333 หรือช่องทางอื่นๆ ได้ทาง LINE : Anya Authentic Thai Cuisine, IG : Anya.AuthenticThaiCuisine และ FB : Anya.AuthenticThaiCuisine