พระราชินีทรงเยี่ยมชมร้านค้าในพระราชดำริ โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้ผลิตตุ๊กตาวานรทั้ง 18 มงกุฎ และทอดพระเนตรการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมาน
วันนี้ (25 ธ.ค. 63) เวลา 17.28 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปทอดพระเนตรร้าน ๑๐๙ ณ ศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม พลาซ่า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และทอดพระเนตรการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมาน ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึงศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม พลาซ่า ทรงพระดำเนินเข้าภายในศูนย์การค้า ทรงเยี่ยมชมร้าน๑๐๙ ซึ่งตั้งอยู่บนเลขที่ ๑๐๙/๒/๗๖ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นางนฤมล ล้อมทอง ผู้จัดการร้าน ๑๐๙ หนึ่งศูนย์เก้า เข้าเฝ้าฯ ทูลกล้าฯ ถวายสินค้าของร้าน และทอดพระเนตรสินค้าภายในร้าน
โดยร้าน ๑๐๙ เปิดดำเนินการเมื่อ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2563 ซึ่งเป็นร้านในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยคณะกรรมการร้านขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเปิดร้านขึ้นภายในศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม บนเลขที่ ๑๐๙/๒/๗๖ อันเป็นที่มาของชื่อร้าน หนึ่งศูนย์เก้า เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าจากร้านมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ร้านจิตรลดา ให้มีความหลากหลายและเข้าถึงกลุ่มบุคคลต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งภายในร้านนอกจากจะมีการจำหน่ายสินค้าจากร้านมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ร้านจิตรลดาแล้ว ยังมีสินค้าจากมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุงมาร่วมจำหน่ายด้วย เช่น กระเป๋าป่านศรนารายณ์ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานคำแนะนำให้มีการนำป่านศรนารายณ์มาใช้ประโยชน์ด้านการจักสานเพื่อเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน โดยใช้เวลาว่างหลังจากเลิกงานด้านการเกษตรแล้วมาเรียนรู้วิธีการจักสานป่านศรนารายณ์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวอีกทางหนึ่ง, ผ้าพันคอ แก้วน้ำ จานชามเซรามิก ตุ๊กตาผ้า ผ้าฝ้ายพิมพ์ลาย เสื้อผ้าไหมตัดเย็บสำเร็จรูป ร่ม รวมไปถึงสินค้าที่ระลึกอย่าง กุญแจรูปหัวโขน ร่ม แมกเน็ต เป็นต้น
ระหว่างทอดพระเนตรภายในร้าน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีมีพระราชเสาวนีย์เกี่ยวกับการดำเนินงานภายในร้าน ความว่า “ควรผลิตตุ๊กตา KHON รูปหนุมานอันเป็นสินค้าที่ระลึกภายในร้านให้ครบทั้งวานร 18 มงกุฎ และผลิตตุ๊กตารูปยักษ์อันเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญในวรรณคดีรามเกียรติ์ มาจำหน่ายเพิ่มเพื่อให้ร้านมีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นขึ้น ทั้งยังเป็นของขวัญและของฝากในเทศกาลสำคัญได้เป็นอย่างดี”
จากนั้นประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลาเฉลิมกรุงเพื่อทอดพระเนตรการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมาน ระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินมีพสกนิกรในพื้นที่ใกล้เคียงต่างมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จเป็นจำนวนมาก ทรงแย้มพระสรวล โบกพระหัตถ์ทักทายราษฎร ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจ ทรงคล้องหน้ากากผ้าที่ทรงออกแบบด้วยพระองค์เองไว้ที่พระศอ และทรงพกแอลกอฮอล์เจลล้างมือขวดเล็กๆ ห้อยที่ข้อพระหัตถ์ตลอดเวลา ทรงปฏิบัติพระองค์ตามหลัก New Normal ยุคโควิด-19 เป็นแบบอย่าง
เมื่อเสด็จฯ ถึงศาลาเฉลิมกรุง นางเยาวลักษณ์ แพ่งสภา กรรมการบริษัท สหศีนิมา จำกัด เฝ้าๆ รับเสต็จและทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย และนางนฤมล ล้อมทอง กราบบังคมทูลประวัติของโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง จากนั้นทรงพระดำเนินเข้าโรงมหรสพหลวง ทอดพระเนตรการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมาน ทั้งหมด 6 องก์ ประกอบด้วย องก์ที่ 1 วานรอ่อนแรงด้วยสาปพระอุมา, องก์ที่ 2 ถวายตัวเป็นข้าฯ รับอาสาสืบหนทาง, องก์ที่ 3 ล้างสหัสกุมาร, องก์ที่ 4 ขุนทหารถมศิลาจับมัจฉาอรทัย, องก์ที่ 5 กุมภัณฑ์พ่ายแพ้หนุมาน และองก์ที่ 6 ขุนทหารครองพารา
ภายหลังทอดพระเนตรการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมานจบแล้ว พระราชทานช่อดอกไม้แก่นักแสดง นักดนตรี นักพากย์ และผู้กำกับการแสดง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยไว้ให้อยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป ด้วยพระองค์มีพระราชปณิธานตั้งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชเสาวณีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในด้านการอนุรักษ์โขนไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา
สำหรับศาลาเฉลิมกรุง หรือโรงมหรสพพระราชทาน อันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยในโอกาสฉลองพระนครครบรอบ 150 ปี ประกอบกิจการด้านการแสดงละคร ภาพยนตร์ และดนตรี จนประสบความสำเร็จ โดยได้รับการตอบรับอันดีเยี่ยมจากประชาชนทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับความร่วมมือจากบุคคลในวงการแสดง ทั้งภาครัฐ และเอกชน จัดกิจกรรมมหรสพครบทุกรูปแบบ ทั้งการแสดงหน้าม่าน ละคร ภาพยนตร์ โขน และดนตรี ให้ประชาชนได้ชมกัน
ศาลาเฉลิมกรุงจึงตระหนักถึงความสำคัญที่จะมุ่งมั่นอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอันงดงาม และธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้คงอยู่ไว้สืบไป เพื่อให้ประชาชนได้รับชมการแสดงต่างๆ ที่มีคุณภาพครบทุกอรรถรส อีกประการหนึ่ง เพื่อให้เป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นนโยบายหลักของศาลาเฉลิมกรุงอีกทางหนึ่ง
การแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุงจัดขึ้นเพื่อเป็นการร่วมทำนุบำรุงนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยให้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาประชาชนทั้งชาวไทยและประชาคมโลก รวมทั้งยังเป็นการดำเนินตามรอยพระยุคลบาทในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติด้วย นอกจาก “โขน” เป็นนาฏกรรมชั้นสูงของไทยแล้ว สถานที่จัดแสดงคือ “ศาลาเฉลิมกรุง” แห่งนี้ ซึ่งเป็นโรงมหรสพหลวงที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ และเป็นเสมือนสถาบันสัญลักษณ์แห่งการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ เริ่มเปิดการแสดงโขน~ศาลาเฉลิมกรุงมาตั้งแต่ปี 2548 จัดแสดงมาอย่างต่อเนื่อง ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง เป็นคณะโขนที่ได้คัดเลือกศิลปินกว่า 100 คน ที่ได้รับการฝึกฝนนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยจากหลากหลายสถาบันชั้นนำเข้ามาร่วมกันทำงาน ภายใต้การควบคุมดูแลและฝึกซ้อมของคณะครูผู้เชี่ยวชาญจาก วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และกรมศิลปากร เพื่อปรับพื้นฐานร่างกาย พละกำลัง วินัยการแสดงและจิตใจให้พร้อมในการสร้างสรรค์งานศิลปะ อันเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนานักแสดงโขนที่มีความมุ่งหมายจะเป็นนักแสดงโขนมืออาชีพ เพื่อการแสดงที่ยิ่งใหญ่ ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง อันเป็นการเผยแพร่สู่สายตาประชาคมโลกต่อไป
ความพิเศษของการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง เรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมาน กำกับการแสดงโดย นายศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ (ศิลปินแห่งชาติ) จับตอนตั้งแต่กำเนิดหนุมาน ได้เป็นทหารเอกของพระราม ช่วยพระรามรบกับทศกัณฐ์จนชนะ พระรามจึงแต่งตั้งให้หนุมานเป็นพระยาอนุชิตจักรกฤษพิพรรธพงศา ให้ไปครองเมืองนพบุรี ถ่ายทอดผ่านการแสดงอันวิจิตรงดงาม ดำเนินเรื่องราวสั้นกระชับด้วยการพากย์เจรจา ผสมผสานการแสดงโขนกับระบบเทคนิคพิเศษของฉากการแสดง สร้างสรรค์ขึ้นโดยมุ่งเน้นภาพลักษณ์ใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์เดิมไว้อย่างครบถ้วน โดยมีหนุมานเป็นตัวละครเอก นำเข้าสู่เรื่องราวของรามเกียรติ์ ชมความงดงามของสวนแม่พระอุมา ฉากใต้น้ำที่สวยงามอลังการ สนุกสนานไปกับลีลาของหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา ตื่นเต้นไปกับอิทธิฤทธิ์ของหนุมานรบสหัสกุมาร ตื่นตาไปกับกระบวนทัพที่น่าอัศจรรย์ของพระราม
สำหรับผู้ที่สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง โทร. 0-2224-4499