“นพ.ระวี” ประธานอนุกรรมาธิการยานยนต์ไฟฟ้า เสนอรัฐผลักดันรถจดทะเบียนใหม่ 100% ต้องเป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบไร้มลพิษภายใน 15 ปี ชี้ หากหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมาก ค่าไฟจะถูกลง เพราะตอนนี้พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศเหลือ 2 หมื่นเมกะวัตต์ ถูกผลิตเก็บไว้เฉยๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นค่า FT หากได้นำออกมาใช้ ค่า FT จะถูกลง
วันที่ 22 ธ.ค. 2563 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังธรรมใหม่ และประธานอนุกรรมาธิการยานยนต์ไฟฟ้า สภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน”
โดย นพ.ระวี กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลในเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า ว่า มีการตั้งคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้า เดิมมี นายสมคิด ดูแล ร่วมด้วย รมว.พลังงาน รมว.อุตสาหกรรม มีการประชุมครั้งเดียว หลังจากนั้นไม่ประชุมอีกเลย นโยบายที่ออกมาตอนนั้น คือ เป็นรถ XEV 30% @2030 หมายถึงว่า อีก 10 ปีนับจากนี้ไป ประเทศไทยจะต้องมีรถจดทะเบียนใหม่ 30% ต้องเป็นรถไฟฟ้าแบบใดก็ได้ 4 แบบ คือ 1. ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV) 2. ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) 3. แบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) 4. เซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle - FCEV) นี่คือนโยบายที่วางไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นห่วง ตนได้เสนอรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปว่าถ้าไม่เปลี่ยนประเทศไทยเจ๊งแน่
เพราะอีกประมาณ 4 ปี รถ EV (รถไฟฟ้า) กับ ICE (รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน) จะราคาเท่ากัน อนุกรรมาธิการทั้งคณะ จึงเสนอนโยบายใหม่ไปว่าใน 15 ปี ขอให้รถจดทะเบียนใหม่ 100% ต้องเป็นรถยานยนต์ไฟฟ้าไร้มลพิษ ก็คือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า กับรถพลังงานไฮโดรเจน สองอย่างนี้เท่านั้น ส่วนไฮบริด กับปลั๊ก-อิน ไฮบริด ตัดออกไปเลย เพราะยังมีใช้น้ำมันอยู่
นพ.ระวี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สถานีชาร์จรถไฟฟ้าก็ต้องรีบทำ ที่เราเสนอรัฐไป ภายในปีหน้าต้องสร้างให้มีทุก 100 กิโลเมตร บนทางหลวงแผ่นดิน การใช้รถไฟฟ้าจะทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลง เพราะตอนนี้พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศเหลือ 2 หมื่นเมกะวัตต์ มันเก็บไว้เฉยๆ จ่ายเงินค่าผลิตไปเฉยๆ ทั้งหมดเป็นค่า FT ที่เราต้องไปจ่าย ถ้ารถไฟฟ้าเติบโตขึ้นก็ไปเอา 2 หมื่นเมกะวัตต์นี้ มาใช้ ก็จะไม่สูญเปล่า ค่า FT จะถูกลง