ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตรการฝึกปฏิบัติและดูงานศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 บางเขน โครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา "LOVE CAMP"Leadership - Oneness - Volunteer - Expert หลักสูตรการฝึกปฎิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย รุ่นที่ 1 พร้อมพระราชทานสัมภาษณ์เป็นครั้งแรกอย่างทรงเป็นกันเอง
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 20.11 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 บางเขน กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน ทอดพระเนตรการฝึกปฏิบัติและดูงานศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 บางเขน โครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา "LOVE CAMP"Leadership - Oneness - Volunteer - Expert หลักสูตรการฝึกปฎิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย รุ่นที่ 1 ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะกรรมการอำนวยการ และคณะอนุกรรมการคักเลือกนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาทั่วประเทศเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 271 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 200 คน และผู้ดูแลนักเรียน จำนวน 71 คน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 ธันวาคม 2563 เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจผ่านการปฏิบัติจริงในพื้นที่แปลงสาธิต ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามพระราชปณิธาน "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” กิจกรรมการฝึกปฏิบัติและดูงานแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วยแปลงที่ 1: การแก้ปัญหาตามภูมิสังคม แปลงที่ 2: การจัดการและการเอาตัวรอดในภาวะวิกฤติ และแปลงที่ 3: การพึ่งพาตนเอง
ทั้งนี้ผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้เข้าใจทั้งทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการจัดการเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริ รวมถึงสร้างความภูมิใจในวัฒนธรรมและภูมิปัญญาวิถีชาวไทย เพื่อสืบทอดต่อกันมาตามบริบทของภูมิสังคมที่ต่างกัน เข้าใจเป้าหมายของจิตอาสา สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และขยายผลสู่สังคม สามารถพัฒนาตนเองเป็นเมืองที่ดี รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม สามารถทำงานกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและเรียนรู้พึ่งพาตนเองได้ในสถานการณ์วิกฤตโดยเน้นการลงมือปฏิบัติ และการเผชิญสถานการณ์วิกฤต
โดยการเสด็จพระราชดำเนินมาในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัส แก่เยาวชนโครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา “LOVE CAMP”Leadership-Oneness-Volunteer-Expert หลักสูตรการฝึกปฏิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียง ความว่า
“ในค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนแห่งความสุขความสบายใจและก็เป็นที่น่ายินดีที่ได้มาพบกับพวกเรา และทุกคนได้มารวมกันในบรรยากาศที่สบายๆ น่าอบอุ่นที่นี้ ในการที่ได้มาเข้าหลักสูตรจิตอาสาหรือได้เกิดได้มีประสพการณ์ตลอดจนได้พบปะสังสรรค์กัน เป็นเรื่องที่ดี เพราะว่ามีสิ่งที่สำคัญก็คือทุกคนอยู่ในวัยอยู่ในห้วงที่หนุ่มสาวแข็งแรง สดใส และที่สำคัญมีชีวิตอีกยืนยาวไปข้างหน้า นั้นก็คือมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่มีความสุขความสบายใจ ความสดใสแข็งแรงไปอีกนานแสนนาน พูดถึงทุกคนทุกคนต้องการบ้านที่ปลอดภัยที่อบอุ่นทุกคนต้องการเพื่อนและญาติมิตรที่รักใคร่และหวังดีตลอดจนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ประเทศชาติก็คือบ้านแบ่งเป็นพื้นที่ต่างๆสังคมต่างๆ ก็ลงไปอยู่ที่พื้นฐานคือครอบครัวและลงอยู่ที่ตนเอง บ้านเมืองของเราประเทศของเราหรือบ้านครอบครัวของเรา จะมีความสุขปลอดภัยน่าอยู่สบายมันก็ขึ้นกับคนรุ่นเราในอนาคต ก็เหมือนกับที่ผ่านๆมาผู้ใหญ่รุ่นก่อนเขาก็พูด อย่างข้าพเจ้าก็เคยเป็นเด็กมาก่อนเคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนเคยเรียนรู้ลองถูกลองผิดต่างๆมามากแต่ผู้ใหญ่เขาก็แนะนำเขาก็ชี้แนะและเขาก็พูดแบบนี้ว่าอีกหน่อยอนาคตของชาติบ้านเมืองหรือของครอบครัวเอาแค่ครอบครัวก่อน ครอบครัวอีกหน่อยเราก็จะเป็นหัวหน้าครอบครัว อีกหน่อยเราก็จะแยกครอบครัวไปสร้างครอบครัว อนาคตอยู่ที่พวกเรา ประเทศชาติบ้านเมืองมีความสุขมีความมั่นคงก็อยู่ที่พวกเรา เพราะฉะนั้นประสบการณ์ที่ดีประสบการณ์ที่ถูก สำคัญถ้าเผื่อรู้อยากรู้ว่าอะไรที่มันถูกมันผิดมันก็มีตัวอย่าง ซึ่งสมัยนี้คนไม่ค่อยชอบเรียนประวัติศาสตร์กัน คนไม่ค่อยคิดอะไรย้อนหลัง ไม่ได้สอนให้เป็นคนสมัยเก่าไดโนเสาร์อะไรแต่ความเป็นมาความต่อเนื่อง
อย่างที่มาก็นั่งรถมาลงจากรถมานั่งที่นี้มีรายการต่างๆก็เป็นความต่อเนื่องความเป็นมา ชีวิตของเราก็มีความต่อเนื่องความเป็นมา ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์หรือความเป็นมาของชาติบ้านเมือง ทั้งที่ดีทั้งที่ไม่ดีเราก็จะรู้ว่าอะไรมันดีอะไรเป็นประโยชน์อะไรมันไม่ดี เพราะว่ามันมีของดีมันก็มีของไม่ดีมันมีของถูกมันก็มีของผิดก็สำคัญที่ว่าจะเปิดใจศึกษาว่าอะไรมันถูกอะไรมันผิดอะไรมันเป็นประโยชน์อะไรมันไร้ประโยชน์ แต่อย่างที่บอกว่าประวัติศาสตร์มีทั้งของมันเลวชั่วร้าย และก็มีทั้งของที่ดีแต่ที่สำคัญคือเราต้องเอาบทเรียนมาใช้ และเราเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เพราะเราคืออนาคต ประวัติศาสตร์มาปัจจุบัน ปัจจุบันก็คืออนาคต ปัจจุบันถือไมโครโฟนพูดกับเราอยู่เอาวาง ก็ไม่ได้ยินแล้วแต่ปัจจุบันนี้ถืออยู่อนาคตจะกลับขึ้นมาอีกก็เป็นปัจจุบันเพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือปัจจุบันณกรรม คือสิ่งที่เราทำอยู่นี้ เพราะว่าที่ทำอยู่นี้ก็จะได้ผล อย่างเช่นตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจหาความรู้ตั้งใจหาเหตุผลว่าอะไรมันถูกอะไรจะดีกับส่วนรวม มันก็จะมีผลดีกับอนาคตถ้าเราไม่เรียนเราเที่ยวอย่างเดียวหรือเราไปฟังอะไรที่มันไม่ถูกต้องโดยไม่คิดพิจารณาว่าอะไรถูกหรือไม่ถูกเราก็ออกนอกลู่นอกทางพอเราจะกลับเข้าลู่เข้าทางมันก็เสียเวลาไป เพราะฉะนั้นปัจจุบันก็คือเป็นสิ่งที่ทำให้อนาคตดี อนาคตดีของพวกเราเริ่มต้นที่ตัวเองก่อนว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรง รักหมู่คณะรักครอบครัว รักหมู่คณะหาความรู้ประสบการณ์ทั้งวิชาการ ทั้งทักษะความสามารถต่างๆงานอดิเรกดนตรี ภาษา หรือสิ่งที่น่าจะทำมีอีกตั้งเยอะแยะ รักเพื่อนรักบ้านรักชุมชน และก็เน้นอีกทีหนึ่งคือเรียนประวัติศาสตร์ไม่ได้เรียนอ่านประวัตศาสตร์กันบ้าง เพื่อให้รู้ความเป็นมาว่ามันเป็นอย่างไร หรือทุกวันนี้เราก็เห็นได้ว่าอะไรมันดีอะไรมันไม่ดี
อย่างนึกถึงนิดหนึ่งตลอด 70 ปีของรัชกาลที่ ๙ ที่ผ่านมาระลึกถึงท่านหน่อยว่าท่านเริ่มอย่างไรท่านทำอะไรมาบ้างและท่านทำอะไรมาเพราะอะไรและมีผลอะไรดีต่อชาติบ้านเมืองบ้าง เรานึกถึงพระองค์ท่านรัชกาลที่จบไปนี้ เราอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะรัชกาลของพระองค์ท่านด้วยใช่หรือไม่ นี้เรืองจริง เราเป็นลูกท่านเราก็ได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เป็นเด็กตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาท่านก็ดึงกลับเข้ามาเข้าทางการเรียนท่านก็จัดให้ก็มาคิดสำนึกที่ท่านสั่งสอนมาไม่งันก็อาจจะตกท่อตกคูไปแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นเรามีโอกาสที่จะตั้งใจเล่าเรียนหางานที่ดีทำประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อส่วนรวม ทำประโยชน์ต่อส่วนรวมไม่จำเป็นต้องเป็นทหารไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการ ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมให้เพื่อนร่วมชาติของเราหรือร่วมสังคมของเรามีความสุขอะไรที่มันไม่ค่อยดีหรือคิดว่าไม่ค่อยดีก็ดูพิจารณา ถ้าเห็นว่ามันไม่ค่อยดีก็ละเว้น อะไรที่เห็นว่าดีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมก็ปฏิบัติเพราะความไม่ดีนี้นะ ความไม่ดีความบิดเบี้ยวไปจากความจริง หรือความที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเดือดร้อนมันไม่จีรังถาวรมันก็มาแล้วคนก็ตื่นเต้นไป แล้วพิจารณาเหตุผลดีหรือไม่ดีถ้าไม่ดีมันก็ไปนี้พูดความจริง
เรามีโอกาสอีกเยอะที่จะสร้างความดีให้แก่ชาติบ้านเมืองให้แก่สังคม เป็นอะไรก็ได้ ทำอาชีพอะไรก็ได้ เรียนอะไรก็ได้ แต่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเราหรือเปล่าประเทศชาติเราหรือเปล่า เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวเราหรือเปล่า และที่สำคัญเป็นโยชน์กับตัวเองหรือเปล่า เพราะว่าชีวิตนี้บางทีมันผ่านมาผ่านไปเร็วมากอย่างข้าพเจ้าแป๊บเดียวเผลอแป๊บเดียวก็จะ70 แล้ว ก็ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำหลายอย่างเสียใจว่าไม่ได้ทำ เสียใจแปลว่าน่าจะทำแต่ก็ไม่เป็นไรก็ไม่ต้องเสียใจ ก็ทำเดี๋ยวนี้ก็ได้ แต่อายุเวลามันผ่านไปเร็ว วันนี้ก็ยังอยากจะกลับไปอายุเท่าพวกเรา แต่ก็ไม่สามารถจะ พวกเรายังมีเวลา เพราะฉะนั้นถ้าเผื่ออยากได้ประสบการณ์ เรียนลัดก็คือศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมามากๆแล้วเราก็จะได้เรียนลัด ไอ้นี้สมัยก่อนอันนี้มันเป็นอย่างนี้ทำอย่างนี้มันเป็นอย่างนั้น แล้วปัจจุบันเราจะทำอย่างไงให้เรามีความรู้มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่จะรักษาประเทศชาติบ้านเมือง
ก็ลองไปคิดถึง 70 ปีของรัชกาลที่ ๙ ดูไปดูไปอ่านมาไปคิดมาว่าท่านทำอะไรบ้างทั้ง 2 พระองค์ ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระบรมราชินี ทำอะไรบ้าง และเรามีอะไรบ้างที่สืบเนื่องมาจากท่าน เราไปคิดดูไม่ได้บังคับให้คิดนะลองไปคิดดู เราเป็นกำลังของชาติ ก็เขาก็พูดสอนไปมากแล้วเราเป็นกำลังของชาติก็ไม่อยากเอาทฤษฎีมาพูดเราเป็นกำลังของชาติเราเป็นกำลังของตัวเองเราทำดีมันก็อยู่ที่ตัวเอง เราทำดีมันก็สะท้อนไปถึงส่วนรวมด้วยถ้าเราเลอะเทอะเละเทะทำร้ายประเทศชาติหรืออะไรต่างๆก็ทำร้ายตัวเอง ที่เขาสอนมันเริ่มที่ตัวเอง และผลจากตัวเองมันก็มาจบที่ตัวเองจำคำนี้ไว้ เริ่มที่ตัวเองจบที่ตัวเองไม่ว่าดีหรือไม่ดี คือพูดให้ฟังแล้วก็ไม่ได้ขอให้เชื่อด้วย เป็นความคิดเฉยๆที่พูดมาทั้งหมดกับพวกเรา สร้างตัวเองหาวิชาความรู้ที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเองทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียนก็ไม่ได้ให้เบื่อให้น่าเบื่อ สมัยก่อนผู้ใหญ่บอกให้เรียนขอให้ตั้งใจเรียนก็คิดเหมือนกันว่าน่าเบื่อทำไมเขาถึงพูดอย่างนี้ไม่อยากเรียนให้เป็นอย่างนู้นเป็นอย่างนี้ก็ไม่อยากเป็นแล้วมาคิดดูว่าที่เขาพูดมานี้ถ้าเราลองทำดูนี้เราอาจจะเป็นประโยชน์กับเราก็ได้
สมัยก่อนเป็นนักเรียนผู้ใหญ่บอกอย่างนี้บางทีก็ทำไมมาพูดอย่างนี้ไม่อยากทำยิ่งไม่ทำตัวเองก็เดือดร้อนตัวเองอย่างน้อยก็ต้องมาซ่อมสอบซ่อมหรือโตขึ้นมาอยากจะเล่นอย่างเช่นอยากเล่นดนตรีได้ดีก็เสียใจว่าผู้ใหญ่เป็นนักดนตรีชั้นยอดมาสอนด้วยพระองค์เองตัวเองแล้วเราไม่ตั้งใจเรียนไม่อยากเรียนก็ปัจจุบันนี้ก็ยังเล่นดนตรีไม่ได้ดี หรือเล่นไม่ได้อะไรทำนองนี้รู้สึกอยากท่านเคยบอกว่าเราควรจะมีงานอดิเรกควรจะมีความสามารถพิเศษบ้างก็ไม่เอาก็เสียใจทีหลังว่าเราไม่มีทักษะในงานอดิเรกอะไรต่างๆพวกนี้ก็ลองไปคิดเอาเองจิตอาสานี้ก็เป็นสถานการณ์สมมุติที่เขาเอาเรื่องต่างๆมาให้เราทำให้เราฟังให้เราปฏิบัติก็เหมือนการเรียนทั้งหลายเป็นการสมมุติสถานการณ์มันอยู่ที่ตัวเองที่จะต้องออกไปติดตามไปศึกษาก็มันอยู่ที่ตัวองที่จะต้องศึกษาว่าอะไรคือถูกอะไรอะไรคือไม่ถูก
ยิ่งกว่าถูกไม่ถูกคืออะไรมันจริงอะไรมันไม่จริงถ้าคนแน่จริงเขาเชื่อความจริงเขาทำตามความจริงเขาไม่ได้เชื่อข่าวลือข่าวลวง ใครพูดว่าอย่างไรแน่จริงความจริงชนะเสมอเราจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อสังคมของเราก็อยู่ที่ความหนักแน่นของเรา แล้วก็ฝากไว้นิดหนึ่งนึกถึงแผ่นดินรัชกาลที่9เอาไว้ถ้าเราคิดเรื่องนี้ได้หลายๆอย่างจะตอบปัญหาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 และสมเด็จพระพันปีหลวงท่านทำอะไรมาบ้าง เราไปศึกษาดูสิ เราจะได้คำตอบเวลาที่เราอาจจะยังไม่ได้มาก่อนก็ได้ ที่อยู่มาได้เดี๋ยวนี้ก็เพราะแผ่นดินที่แล้วนี้ล่ะ และก็แผ่นดินก่อนๆอาจจะหาว่าเต่าล้านปีไดโนเสาร์ลองไปศึกษาดูคำตอบจะอยู่ในนั้นน่ะก็เราก็พูดแค่นี้แหละคนก็พูดใส่เรามามากแล้ว ต้องเป็นอย่างนี้ต้องเป็นอย่างนั้นต่างๆก็ขอให้มีความสุขความเจริญแล้วก็อยู่ในความจริง อยู่ในเหตุผล อยู่ในความจริง อยู่ในเหตุผลทุกคนรักบ้าน ทุกคนไม่อยากเห็นบ้านแตกทุกคนไม่อยากเห็นขโมยขึ้น ทุกคนไม่อยากให้โจรปล้นบ้านเพราะฉะนั้นเราต้องรักษาบ้านเมืองของเราให้ดี รักษาบ้านของเราให้ดีขอให้มีความสุขความเจริญรักพวกเราทุกคนนะ”
ภายหลังจากที่ได้พระราชทานพระราชดำริเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เยาวชนโครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา “LOVE CAMP”Leadership-Oneness-Volunteer-Expert หลักสูตรการฝึกปฏิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียงในการนำไปเป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิตเพื่อร่วมกันสร้างครอบครัวสังคมและประเทศชาติให้น่าอยู่เกิดความร่มเย็นแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้ตัวแทนคณะผู้นำเยาวชนจิตอาสา ร่วมพูดคุยซักถามในเรื่องต่างๆพร้อมพระราชทานสัมภาษณ์แก่ตัวแทนเยาวชนอย่างเป็นกันเอง ถึงสถานการณ์ต่างที่กำลังทรงเผชิญรวมถึงขอพระราชทานแนวทางในการบริหารจัดการกับความเหน็ดเหนื่อยพระวรกายจากการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้
นางสาวพรรณนิษา : หนูและเพื่อนรู้สึกดีใจมากๆนะคะที่ได้พบหน้าของพระองค์ทั้งสองและก็ขอขอบคุณโอกาสที่ให้กับพวกเราทุกคนในวันนี้ที่พวกเราได้มาเรียนรู้การฝึกปฏิบัติได้ศึกษาดูงานเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงทำให้เราได้รับความรู้ในเรื่องของทฤษฏีในเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องของน้ำท่วมน้ำแล้งการช่วยเหลือผู้ป่วยทั้งทางดิ่งและอะไรต่างๆและอีกเรื่องหนึ่งในส่วนของการอบรมจิตอาสาพระราชทานพวกหนูและเพื่อนๆขอสัญญาว่าจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับนำกลับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วก็นำไปถ่ายทอดให้กับคุณครูเพื่อนๆและก็พีๆน้องๆผู้ปกครองคนอื่นที่รออยู่ที่บ้านของพวกเราด้วยค่ะ
ในหลวง : ก็ดีเอาไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ให้เหมาะสมกับกาลเทศะเอาไปต่อยอดจากสภาพจริงเอาความรู้ไปประยุกต์แก้ไขดี และเราก็เอาของที่เรียนรู้ไปใช้ขอบใจมาก
น้องโบอี้ : อยากทราบว่าในหลวงทรงงานเพื่อประชาชนตั้งมากมาย ในบางวันหรือบางเวลาในหลวงมีความท้อมีความเหนื่อยไหม
ในหลวง : ก็เหมือนมนุษย์ทั่วไปบางวันก็ท้อบางวันก็เสียใจบางวันก็แทบจะไม่อยากต่อสู้กับความไม่ดีแต่ก็เป็นของธรรมดาเราก็ต้องรู้ว่ากำลังใจไม่ได้มาจากเวลาที่เราแข็งแรงที่สุด กำลังใจความมั่นใจมาจากสิ่งที่ได้รับการอบรมโดยความเชื่อที่ถูกต้องเวลาท้อก็ต้องเอาเหตุผลขึ้นมาพิจารณาเอาอุดมการณ์ขึ้นมาพิจารณาแล้วก็ทำต่อไปไม่มีใครมีความท้อแต่อย่าให้ความท้อนั้นเป็นมารดึงเราลงไปได้ มันต้องท้อมันต้องเบื่อมันต้องเครียดมันต้องเสียใจเป็นของธรรมดาแต่เมื่อมีอุดมการณ์มีความรู้ในสิ่งที่ถูกต้องมีความรู้แจ่มแจ้งในความจริงความรู้เรื่องสำนึกในหน้าที่เราก็ไปได้ ไม่มีใครบอกว่าแฮปปี้มีความสุขดึ๋งดั๋งตลอดมันก็ต้องมีความท้อก็ไม่ต้องให้ความท้อมาเป็นนายบั่นทอนเราได้ โอเคไหม (ทรงสรุปด้วยพระสุรเสียงที่เป็นกันเอง)
น้องยุ้ย : หนูอยากขอบคุณสำหรับการจัดอบรมกิจกรรมในครั้งนี้พวกเราทุกคนจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มานำไปประยุกต์ใช้ต่อไป และอยากจะให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นอีก ข้าพเจ้าอยากจะให้พระองค์ให้คำสั่งสอนหรือให้แนวทางกับเยาวชนจิตอาสา 904 เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญพระเจ้าค่ะ
ในหลวง : นี้ล่ะก็ได้โอกาสมาชมมาดูของตัวอย่าง จิตอาสาก็เป็นของตัวอย่างที่เราได้รับเชื้อไป เราก็ไปศึกษาไปปฏิบัติต่อคือไปเป็นพลเมืองที่ดีที่จะต้องนึกถึงส่วนรวมเพื่อส่วนรวม และก็ทางเราก็พร้อมที่จะสนับสนุนพวกเราแยกย้ายกันกลับไปบ้านก็ต้องไปเป็นกำลังให้กับพี่น้องในครอบครัวไปเป็นเชื้อที่ดีของประเทศชาติก็อย่างที่บอกไงว่าพวกเราอยากได้บ้านที่ดีบ้านที่อบอุ่นบ้านที่สวยไม่อยากได้บ้านที่รั่วไม่อยากได้บ้านที่มันพุพังเราก็คือบ้านสมาชิกในครอบครัวคือบ้าน คือประเทศบ้านเราจะดีไม่ดีก็อยู่ที่พวกเรานี้ล่ะอะไรที่ไม่ดีไปคิดกันเอาเองอะไรที่ทำให้บ้านพังอะไรที่มันชั่วร้ายก็ไม่ต้องไปทำทำแต่สิ่งที่ดีความชั่วร้ายมันก็จะหายไปเอง
น้องวิทย์ : ผมอยากจะขอบคุณในหลวงที่ดูแลพวกเรามาตลอดดูแลเรื่องอาหารการกินที่โรงเรียนดูแลที่นอนมีที่พักฟรีให้รวมทั้งดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ผมเป็นคนกระเหรี่ยงที่ได้รับโอกาสที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผมครับ อยากจะขอบคุณในหลวงสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของโรงเรียนและต่อไปจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมครับ ขอบคุณครับ
ในหลวง : ขอบคุณในความคิดที่ดีทุกคนมีความคิดที่ดีเรามีความคิดที่ดีบ้านเมืองปลอดภัยแล้ว
ใจเพชร : กระผมขอพูดความในใจ (พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะความตื่นเต้น)
ในหลวง : พูดดังๆ หน่อย (พระสุรเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา)
ใจเพชร : รู้สึกดีใจและมีความสุขมากในวันนี้ที่ได้เจอในหลวงและพระราชินี กระผมได้เรียนรู้ได้ศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงก็เพราะพระองค์ท่านที่ให้โอกาสกับพวกผมพวกผมอยากจะขอบคุณพระองค์ท่านด้วยการตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีของพ่อแม่และเป็นที่คนดีของสังคมตลอดไปครับ
ในหลวง : ขอบคุณมากขอบคุณมากลูกที่มีความตั้งใจขอให้ความตั้งใจที่ดีเป็นพลังเพื่อผลักดันให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้องและเราจะเจริญรุ่งเรืองด้วยการทำสิ่งที่ดีเพราะสิ่งที่ดีเป็นสิ่งถาวรสิ่งที่มันชั่วร้ายไม่ถาวรความจริงถาวร
น้องแหม่ม : หนูเป็นนักเรียนทุน ม.ท.ศ.รุ่นที่ 11 ค่ะก่อนอื่นหนูอยากจะพูดความในใจก่อน หนูเป็นเด็กต่างจังหวัดเป็นเด็กจังหวัดสิงห์บุรีนะคะ บ้านก็อยู่ชานเมืองพ่อแม่ก็แก่แล้วก็ทำนานี้ละคะ ก็คือหนูได้รับโอกาสจากพระองค์ท่านพระองค์ท่านพระราชทานโอกาสให้หนูหลายครั้งมากหลังที่พี่สาวเข้าโรงพยาบาลครอบครัวหนูก็ตกอยู่ในความทุกข์พ่อแม่ไม่ยิ้มกับหนูเลยพอพ่อแม่รู้ว่าหนูได้รับทุนหนูดีใจมากพ่อแม่ยิ้มกับหนูเป็นรอยยิ้มครั้งแรกที่แม่มอบให้หนูและทำให้หนูมีความสุขมากๆ (น้ำเสียงนั่นเครือ) ทำให้หนูต้องการสู้ต่อไปหลังจากที่ได้รับมอบโอกาสจากพระองค์ก็อยากจะขอขอบพระคุณมากๆค่ะ หลังจากที่หนูได้รับโอกาสหนูรู้สึกว่าโอกาสต่างๆมันเข้ามาในชีวิตทำให้ชีวิตหนูเปลี่ยนแปลงไปมากเลยค่ะ โอกาสที่ได้เจอกับเพื่อนๆทั่วประเทศโอกาสที่ได้รู้จักคนมากมายทั้งครูฝึกต่างๆและหนูรู้สึกดีใจมากๆค่ะโดยเฉพาะโครงการจิตอาสาพระราชทานนี้ทำให้หนูอยากสู้ต่อไปอยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้เจริญยิ่งขึ้นค่ะ
ในหลวง : ทุกคนเป็นกำลังใจให้หนู (ทรงปรบพระหัตถ์เพื่อพระราชทานกำลังใจ)และก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนอย่างน้อยพระเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จ ก็เป็นกำลังใจให้ทำความดีทุกคนต้องมีความเดือดร้อนทุกคนต้องมีปัญหาแต่ในประเทศไทยนี้นะมีมานานแล้วซึ่งประเทศอื่นไม่มีคือคนไทยเป็นประเทศที่ใจดีที่สุดคนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ คนไทยรักพี่น้องและก็ช่วยกัน แต่คนไทยจำเป็นต้องมีวินัยคนไทยเราจะต้องนึกถึงส่วนรวมจะต้องนึกถึงกฎเกณฑ์ที่มันถูกต้อง กฎเกณฑ์อะไรกฎเกณฑ์ที่จะทำให้เรามีความสุขและปลอดภัยทำหน้าที่พลเมืองที่ดีก็ทุกคนรักหนูทุกคนพร้อมที่จะให้โอกาสจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น
กำปั้น : ในวันนี้พวกเราทุกคนได้รับโอกาสได้รับความรู้ตลอดระยะเวลา 3วัน 2คืน ในอนาคตพวกเราจะต้องนำความรู้นี้ไปใช้ไปพัฒนาประเทศให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองความก้าวหน้า พวกเราทุกคนจึงอยากจะขอหลักในการดำเนินชีวิตจากพระองค์ครับ
ในหลวง : นี้บอกไปตั้งเยอะแล้ว เราก็ได้รับการสอนแล้วก็คือคิดถึงส่วนรวมคิดถึงคนรอบตัวเราแล้วก็คิดถึงว่าบรรพบุรุษหรือผู้ที่ไปก่อนเราแล้วได้ทำอะไรมาให้เราหลายๆอย่างที่เรามีอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะบรรพบุรุษไม่ว่าจะเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือท่านต่างๆได้ทำให้เราทำให้ไว้มาก แนวทางไปศึกษาว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทำอะไรไว้บ้างและท่านได้สั่งสอนเราไว้อย่างไรบ้างศึกษาด้วยปัญญาแล้วก็ดูว่ามันจริงหรือไม่ที่ท่านรับสั่งบ้านเมืองเรานี้พังผ่านเรื่องร้ายกาจต่างๆมาก็เยอะแล้วก็รอดมา ทำไมเพื่อนบ้านรอบเราไม่รอดหรือมันกลายพันธุ์ทำไมคนไทยเราไม่กลายพันธุ์เพราะถ้าคนไทยเราจะกลายพันธุ์คำว่ากลายพันธุ์คงเข้าใจ คนไทยเราเป็นเผ่าวิเศษมีความเป็นไทยเรารอดมาเพราะความเป็นไทยไปศึกษาคุณภาพของความเป็นไทยว่ามันคืออะไรความมีน้ำใจของคนไทยประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยมีอะไร เพราะถ้าเราไม่กลายพันธุ์เราก็จะไปได้ดี ความรู้ที่ดีได้วิชาศาสตร์ต่างๆเอาไปใช้ให้ดีมันก็จะเป็นแนวทางที่ดีไปศึกษาว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านว่าอย่างไรบ้าง เราเน้นเท่านี้
น้องวิ : ข้าพระพุทธเจ้ามาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ฯ57 จังหวัดเพชรบูรณ์ค่ะวันนี้หนูก็ดีใจมากค่ะได้ที่มาเข้าร่วมโครงการอบรมจิตอาสานี้ค่ะ และก็หนูก็เป็นชาวเขากลุ่มเล็กๆที่ได้รับโอกาสจากพระองค์ ได้รับการศึกษาที่ดีค่ะ เพราะว่าแต่ก่อนเขาจะชอบพูดว่าถ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคตแล้วรัชกาลที่10 ไม่ชอบคนม้งแล้วก็จะประหารชีวิตคนม้งไล่พวกหนูออกจากประเทศ หนูกลัวมากเลยค่ะกลัวจะไม่มีประเทศอยู่ไม่มีที่เรียนหนังสือ แต่เวลาผ่านไปพวกหนูก็ยังอยู่ดีมีสุขและก็ยังมีแผ่นดินให้อยู่ค่ะ และก็หนูขอสัญญาค่ะว่าหนูจะเป็นเด็กดีหนูจะตั้งใจเรียนจะนำความรู้และโอกาสดีๆที่หนูได้รับไปส่งต่อให้กับพี่น้องในหมู่บ้านหนูอยากจะเป็นครูค่ะเพราะว่าหนูอยากไปพัฒนาหมู่บ้านตัวเองหนูอยากให้เด็กๆในหมู่บ้านมีโอกาสแบบหนูทุกคนค่ะ แล้วก็อยากให้ทุกคนในหมู่บ้านมีชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ เพราะว่าหมู่บ้านหนูอยู่ห่างไกล และก็เป็นถิ่นทุรกันดาร ไฟฟ้าเพิ่งมาถึงได้ไม่กี่ปี สัญญาณโทรศัพท์ก็เพิ่งมีได้ไม่กี่ปีเหมือนกันค่ะ และก็น้องๆที่หมู่บ้านขาดแคลนการเรียนรู้ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใช้หนูอยากเรียนครูเพื่อกลับไปพัฒนาน้องๆที่อยู่ที่หมู่บ้าน
ในหลวง : ทุกคนเป็นคนไทยมีสิทธิ์มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ในแผ่นดินนี้ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด เราทุกคนคือคนไทย อย่าไปคิดว่าหนูเป็นคนอื่น หนูเป็นคนไทยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย หนูต้องนำความรู้ที่ได้รับไป ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
เยาวชนที่เคยพระราชทานขอถ่ายเซลฟี่เมื่อวันที่ 1 พ.ย. : กระหม่อมศึกษาอยู่โรงเรียนวัดราชบพิธ ก็มีโอกาสเจอพระองค์ท่านบ่อยครั้ง เหตุการณ์ตอนนั้นอาจยังไม่สามารถขอถ่ายรูปกับพระองค์ได้ เมื่อก่อนสมัยที่เรียนอยู่วัดราชบพิธสมเด็จพระสังฆราชก็อบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี แต่พอเราโตมาในยุคโซเชียลก็มีข่าวใส่ร้ายพระองค์มากเหลือเกินมันก็มีข่าวลือข่าวใส่ร้ายให้พระองค์เยอะแยะกระหม่อมก็เคยคิดลบกับพระองค์จนในชีวิตกระหม่อมมีโอกาสได้พิสูจน์ที่สนามหลวงจึงมีโอกาสได้รับรู้พระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อเยาวชนไทย
ในหลวง : ข่าวดีก็มีได้ข่าวไม่ดีก็มีได้และก็พวกเราต้องไปแยกแยะกันเองว่าอะไรเป็นข่าวดีหรือข่าวไม่ดี ไอ้เราก็ไม่ได้เคยโฆษณาตัวเองว่าดีหรือไม่ดีมันก็อยู่ที่พวกเราทุกคนตัดสินเอาเองแต่สิ่งที่ขอก็คือ ขอให้เราชั่งใจให้ดีเป็นใช้ได้ ได้รับข่าวดีก็ต้องถามว่าอะไรมันดี ข่าวลบมันไม่ดีก็ต้องดูว่ามันจริงหรือไม่ก็เป็นของธรรมดาตั้งแต่สมัยเป็นสมเด็จพระบรมฯมาก็มีข่าวไม่ดีแม้แต่เป็นใครก็ต้องพูดดีบ้างไม่ดีบ้างเป็นของธรรมดาเราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองในเรื่องใดๆทั้งนั้น ก็คนที่อยู่ก็เป็นคนตัดสินพิสูจน์เอาเองว่าเราดีหรือไม่ดี เด็กรุ่นใหม่ๆก็ดูเอาเอง แต่ขอให้เราเป็นเด็กดีเป็นคนดีเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็สบายใจแล้ว
เยาวชนที่เคยพระราชทานขอถ่ายเซลฟี่เมื่อวันที่ 1 พ.ย. : ก่อนหน้านี้อาจมีภาพกระหม่อมที่เคยถ่ายกับท่านนายกรัฐมนตรี และนักการเมืองอีกหลายคน อาจจะทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขุ่นเคืองพระราชหฤทัย กระหม่อมอยากจะขอพระราชทาอภัยโทษด้วยพระเจ้าค่ะ
ในหลวง : ถ่ายกับใครเล่าเราเป็นวัยรุ่นอยากจะไปถ่ายกับใครมันก็เป็นเรื่องของเรา เราก็อยากถ่ายกับนักแสดงดาราเหมือนกันตอนเด็กๆเราก็อยากจะถ่ายเหมือนกัน ถ่ายกับคนดีบ้างคนไม่ดีบ้างมันก็เป็นของธรรมดา ไม่เห็นน่าเดือดร้อนอะไรเลย สบายใจได้ เปิดใจให้กว้าง แต่นึกถึงประเทศชาติ นึกถึงว่าสถาบัน สถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนมันแยกจากกันไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นถึงบอกว่าไปดูรัชกาลที่ 9ท่านอุตส่าห์ทำไว้ให้ตั้ง 70 กว่าปี พวกน้องๆบางทีก็ลืมท่านไป เพราะว่าแม้แต่รุ่นสมเด็จพระราชินี นี้ก็เกิดไม่ทันที่เห็นท่านเยี่ยมราษฎรมันขาดช่วงไปน้องๆจะต้องไปช่วยต่อช่วงไม่ให้มันขาดช่วยกันไปศึกษาไปหาเหตุผลไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าเบื่อ
ขวัญ : หนูขอสัญญาว่าจะไม่เนรคุณต่อแผ่นดินจะบอกรักในหลวงด้วนการทำความดีตลอดชีวิต
ในหลวง : ขอบคุณที่ให้กำลังใจมาตลอดขอให้หนูตั้งใจทำความดีและรักประเทศชาติบ้านเมือง