ในหลวง-พระราชินี ทรงจุดเทียนมหามงคลร่วมกับพสกนิกรชาวไทย ณ ท้องสนามหลวง เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ท่ามกลางมหาสมาคม ทรงมีพระราชดำรัสยกย่อง ร.9 ทรงเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนทั้งชาติให้มีเป้าหมายเดียวกัน
วันนี้ 5 ธ.ค.63 เวลา 19.52 น.ภายหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พุทธศักราช 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในการทรงจุดเทียนมหามงคล เพื่อถวายราชสดุดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ
เมื่อเสด็จฯ ถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประธานจัดงานฯ และคณะกรรมการจัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ ทรงพระดำเนินขึ้นบนเวที ทรงยืนเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปประทับพระราชอาสน์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปประทับพระเก้าอี้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เดินไปนั่งเก้าอี้ที่จัดไว้ แล้วทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งแผ่นดิน ความว่า
ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมในพิธีจุดเทียนมหามงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ทั้งได้มาอยู่ท่ามกลางประชาชนทุกหมู่เหล่า ในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งรัชสมัย ดังเป็นที่ประจักษ์ว่าได้ทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดำเนินก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงยั่งยืน โดยการส่งเสริมพัฒนาการศึกษา การแพทย์ และการสาธารณสุข ตลอดจนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งได้พระราชทานหลักการดำเนินชีวิตและประพฤติตนปฏิบัติงานไว้ คือเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นในทางสายกลาง กระทำการทุกอย่างให้พอเหมาะพอดี โดยอาศัยความมีเหตุผลเป็นเครื่องพิจารณา อาศัยวิชาความรู้เป็นเครื่องมือปฏิบัติ และอาศัยคุณธรรมความสุจริตเป็นเครื่องกำกับประคับประคอง ทำให้ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร ประกอบอาชีพการงานใดย่อมมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง สามารถพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น เจริญขึ้น และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลกได้ ประเทศไทยจึงดำรงอยู่ด้วยความเข้มแข็ง ให้ชาวไทย ตลอดจนผู้ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพำนักอาศัย ได้มีชาติบ้านเมืองเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นจุดหมายร่วมกัน ในอันที่จะรักษาสิ่งที่ดีงามของชาติ พร้อมทั้งปฏิบัติสร้างสรรค์ความดีความเจริญ เพื่อความร่มเย็นเป็นปรกติสุข ความมั่นคงเป็นปึกแผ่น และความเจริญยั่งยืนของประเทศ ประชาชนชาวไทยจึงเคารพเทิดทูนพระองค์ในฐานะพ่อแห่งแผ่นดิน และถือเอาวันที่ 5 ธันวาคมวันคล้ายวันพระราชสมภพเป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติไทย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้เสมอมา ขอพระบารมีของพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จงคุ้มครองรักษาประเทศชาติและประชาชนไทยให้มีความวัฒนาผาสุกตลอดไป”
จากนั้น เสด็จฯ ไปยังเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แล้วทรงถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ 2 พุ่ม ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ แล้วทรงถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเทียนชนวนจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดเทียนชนวนจากโคมไฟฟ้า แล้วทรงจุดเทียนมหามงคล ก่อนถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ทรงผินพระพักตร์ไปทางด้านทิศเหนือออกสู่ผู้ร่วมพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเทียนชนวนจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ต่อมาเจ้าพนักงานพระราชพิธีนำโคมเทียนมาขอพระราชทานจุดไฟสำหรับทรงถือ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับเทียนชนวนจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี รับเทียนชนวนจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี และเข้าเฝ้าฯ ขอพระราชทานต่อเทียนที่ทรงถือ
เมื่อเสร็จการต่อเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเทียนชนวนคืนให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี แล้วทรงผินพระพักตร์ไปทางด้านทิศใต้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับโคมเทียน และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี รับโคมเทียนจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี จากนั้นทรงถือโคมเทียน และถือโคมเทียน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ร่วมกับผู้ร่วมพิธี 89 วินาที เจ้าหน้าที่ตีกังสดาลให้สัญญาณเริ่ม 1 ครั้ง และสิ้นสุด 1 ครั้ง แล้วพระราชทานโคมเทียนคืนแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธี ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ก่อนเสด็จฯ ไปประทับพระราชอาสน์ ณ ที่เดิม และทอดพระเนตรการแสดง 3 ชุด คือ 1.การแปรอักษรภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยอากาศยานไร้คนขับประกอบเพลง KING OF KINGS 2.การแสดงการขับร้องเพลงประสานเสียงโดยเด็กและเยาวชน บทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ3.การแสดงทางวัฒนธรรมของชุมชนชาวไทย
เมื่อจบการแสดง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปยังเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ทรงถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ แล้วเสด็จลงจากเวที เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ระหว่างที่ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตลอดเส้นทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จฯผ่านมีพสกนิกรสวมใส่เสื้อเหลือง และชุดแต่งกายพื้นเมือง เฝ้าฯรับเสด็จอย่างเนืองแน่นตลอดสองเส้นทางจาก พระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน ถนนราชดำเนินใน สองมือถือธงชาติไทย ธงพระปรมาภิไธย วปร.และธงพระนามาภิไธย สท. โบกสไวพัดพลิ้วเมื่อยามล้นเกล้าทั้งสองพระองค์เสด็จผ่านอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการถวายความจงรักภักดีบางคนก้มกราบแทบพระบาทด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโบกพระหัตถ์แย้มพระสรวลทักทายราษฎรอย่างใกล้ชิด