xs
xsm
sm
md
lg

“อ.อานนท์” โต้ประเด็นพระเจ้าแผ่นดินในอดีตรีดภาษีราษฎร-กดขี่แรงงาน ไม่เป็นความจริง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ.อานนท์” โต้ประเด็นทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เป็นทรัพย์สินราษฎร โดยอ้างว่า สมัยสมบูรณาญาสิทธิราช รีดภาษีราษฎรถึงร้อยละ 15 ความจริงไม่ถึงร้อยละ 15 แต่อย่างใด พระเจ้าแผ่นดินยังทรงค้าสำเภาหารายได้ ประกอบกิจการอื่นอีกมาก และไม่มีการกดขี่แรงงาน

วันที่ 1 ธ.ค. 2563 ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ... มีนักวิชาการทางรัฐศาสตร์จากหลายค่าย เขียนโต้ประเด็นว่าทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เป็นทรัพย์สินราษฎร โดยให้เหตุผลว่า

หนึ่ง พระเจ้าแผ่นดินไทยสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช รีดนาทาเร้นภาษีราษฎร พระคลังข้างที่หักรายได้จากกระทรวงพระคลังมหาสมบัติตั้งร้อยละ 15 อันเป็นเหตุการณ์สมัยพระพุทธเจ้าหลวง

ขอโต้แย้งว่า แท้จริงมีคนเสนอเช่นนั้นแต่ที่ปรึกษาราชการแผ่นดินชื่ออินเนส ไม่ได้ยอมให้ทรงทำเช่นนั้น และมีตัวเลขจากรมบัญชีกลางที่แสดงเลยว่าได้ไม่ได้คงที่ร้อยละ 15 และไม่ถึงร้อยละ 15 แต่อย่างใด นอกจากนี้ พระเจ้าแผ่นดินยังทรงค้าสำเภาหารายได้มาเป็นของแผ่นดิน และทรงประกอบกิจการอื่นๆ อีกมาก

สอง พระเจ้าแผ่นดินไทย เกณฑ์แรงงานไพร่ กดขี่แรงงานมาหาเงินเข้าพระคลังข้างที่

ข้อนี้ก็ไม่จริง ท้ายที่สุดก็เลิกเกณฑ์แรงงานไพร่ และสมัยรัตนโกสินทร์แม้กระทั่งอยุธยาก็จ้างกุลีจีนและทหารต่างชาติจำนวนมากมาย
พระเจ้าแผ่นดินไทยไม่ได้โหดร้ายเป็น fuedal lord แบบยุโรป ไม่ได้กดขี่อะไร เช่นนั้น

สาม หลัง 2475 มา ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นของราษฎร เพราะยึดมาแล้ว

ข้อนี้ก็ไม่จริงเลย เพราะ 2475 ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ เด็ดขาด ไม่ได้มีการล้มล้างราชวงศ์ แต่อย่างใด ดังนั้น ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ยังต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดในการเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ คือ พ.ร.บ. ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 2479 2481 2491 ต่างให้พระเจ้าแผ่นดินใช้ดอกผล กำไร จากทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้ ยาวนานจนทุกวันนี้

หลักของกรรมสิทธิ์คือผู้ได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์คือเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ




กำลังโหลดความคิดเห็น