“นักวิชาการ” ชี้ เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ “ไบเดน” ชนะ ความสัมพันธ์อเมริกากับจีน รวมถึงประเทศอื่น คงไม่กลับไปเหมือนก่อน “ทรัมป์” เข้ามาอีกแล้ว เพียงแต่จะประนีประนอมมากขึ้น ด้านไทยถูกบีบให้เลือกข้างลดลง แนะทางออก ใช้อาเซียนเป็นแนวร่วมในการต่อรอง
วันที่ 26 ต.ค. 2563 ผศ.ดร.วิบูลพงศ์ พูนประสิทธิ์ คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ ที่ปรึกษาสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “โลกหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020”
โดย ผศ.ดร.วิบูลพงศ์ กล่าวในช่วงนึงว่า หากไบเดน ชนะได้เป็นประธานาธิบดี ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับจีน ก็คงไม่กลับไปเหมือนก่อนปี 2016 แต่ไม่เผชิญหน้าเท่าทรัมป์ จะเป็นการกลับไปใหม่ เช่น อาจมีการไปคุยกับพันธมิตรยุโรป ประนีประนอมพอสมควร แต่ประเทศพันธมิตรก็จะไม่ไว้ใจเท่าไหร่ เพราะความไม่ต่อเนื่อง ก่อน 2016 ไม่ว่าจะพรรคเดโมแครต หรือรีพับลิกัน เป็นประธานาธิบดี ก็จะเป็นนโยบายร่วมผสม นโยบายตรงนี้จะไม่มีแล้ว เพราะความแตกแยกชัดเจนของสังคมอเมริกา ต่อไปนโยบายต่างประเทศของอเมริกาอาจไม่ได้รับการไว้ใจ
อย่างไทยเราจะลำบากมาก อาจถูกบังคับให้เราเลือกข้างชัดเจน ถ้าเป็นทรัมป์คงบีบเราหนัก แต่ไบเดนอาจไม่มายุ่งเรื่องตรงนี้ แต่ก็คงมายุ่งเรื่องสิทธิมนุษยชน ปัญหาการใช้แรงงาน สิทธิผู้หญิง อะไรก็ตามจะเป็นนิวนอร์มัลหมดแล้ว ฉะนั้น อย่าไปหวังว่าใครขึ้นมาดีกับเรามากกว่า แต่ให้เราคิดว่าไม่ว่าใครขึ้นมา เราจะมีนโยบายต่อสู้อยู่กับเขาไปยังไงดีกว่า
ตอนนี้นโยบายถ่วงดุลอเมริกากับจีนของเราไปได้ดี ไม่มีปัญหา เราก็อยู่รอดมาตลอด แต่ทรัมป์ครั้งแรกพอปล่อยเราไป เพราะไม่มีเวลามาดูเท่าไหร่ แต่ครั้งที่ 2 นี้ ทรัมป์จะให้เลือกเขาชัดเจนขึ้น ตนเสนอทางออก ไทยต้องไปในแนวของอาเซียน เอาอาเซียนเป็นตัวต่อรอง เพราะอาเซียนมีศักยภาพพอสมควร
