เปิดคำตอบโครงการ “คนละครึ่ง” เผยวิธีใช้งานให้ผูกกับแอป “เป๋าตัง” เพื่อเตรียมพร้อมใช้เงิน 3,000 บาท ระบุยอดสิทธิยังคงเหลือ 3 ล้านกว่า
วันนี้ (20 ต.ค.) มาตรการ “คนละครึ่ง” ที่เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เป็นโครงการในลักษณะการร่วมจ่าย (Co-pay) ระหว่างประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ และรัฐบาล โดยจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ไม่รวมสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และบริการต่างๆ ร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ผ่าน g-wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563 มีกลุ่มเป้าหมายร่วมโครงการนี้ทั้งสิ้น 10 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้มีประชาชนที่สนใจเข้าร่วมมาตรการยังคงสามารถลงทะเบียนรับสิทธิได้อยู่จนกว่าจะครบ ซึ่งตอนนี้สิทธิคงเหลืออยู่ 3,850,428 สิทธิ โดยก็ยังคงมีคำถามที่คนลงทะเบียนหลายคนอยากรู้ โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้แอปเป๋าตังในการใช้จ่ายเงินในโครงการ โดยทางเว็บไซต์ได้รวบรวมคำถามยอดนิยมที่คนอยากรู้เกี่ยวกับเป๋าตังเอาไว้ 6 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1. กรณีลูกค้าไม่สามารถถ่ายภาพเพื่อยืนยันตัวตนเพื่อใช้สิทธิโครงการบนแอปเป๋าตัง เพื่อผูก G-Wallet หรือทำการสแกนหน้าไม่สำเร็จ ต้องทำอย่างไร
- สามารถลองใหม่ได้ โดยถ่ายบัตรประชาชนตนเองในที่ที่มีแสงสว่างพอดี และไม่มีเงาบนหน้าบัตร และการถ่ายรูปใบหน้าตนเองให้ถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มืดหรือสว่างเกินไป
- แต่หากรูปถ่ายบนบัตรมีความไม่ชัดเจนหรือไม่สามารถถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนได้ แนะนำให้ไปยืนยันตัวตนที่สาขาฯ เพื่อดำเนินการ หลังจากเรียบร้อยแล้วให้ประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯ อีกครั้ง”
2. หากลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ โดยเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ไม่ตรงกับเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์ในโครงการ คนละครึ่ง ทำให้การยืนยันตัวตน G-Wallet ไม่สำเร็จ
- ลูกค้านำบัตรประชาชนตัวจริงไปติดต่อเพื่อยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทย
3. เวอร์ชันโทรศัพท์มือถือที่รองรับแอปฯ เป๋าตัง สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ขั้นต่ำเป็นเวอร์ชันใด
- โทรศัพท์มือถือแบบ smartphone ซึ่งรองรับการใช้งานแอปฯ เป๋าตังและสามารถถ่ายรูปได้ และรองรับโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ver. 5.0 ขึ้นไป หรือโทรศัพท์ไอโฟน iOS ver. 9.0 ขึ้นไป
4. ในกรณียืนยันตัวตนไม่สำเร็จแล้วต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา เมื่อดำเนินการเสร็จ สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีหรือไม่
- สามารถเข้าใช้งานเมื่อทำการยืนยันตัวตนหลังจากทางสาขาทำการยืนยันตัวตนสำเร็จ จากนั้นประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯ เป๋าตัง อีกครั้ง
5. กรณีประชาชนที่มีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ชื่อที่แสดงบน G-Wallet ในแอปฯ เป๋าตัง จะเป็นชื่อเก่าหรือชื่อใหม่
- การลงทะเบียนเว็บไซต์โครงการฯ และขั้นตอนการยืนยันตัวตนลูกค้าสามารถลงทะเบียนด้วยชื่อ-นามสกุล ตามบัตรประชาชนใหม่ได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ายังไม่สามารถเปลี่ยนชื่อในระบบได้ชื่อบน G-Wallet จะแสดงชื่อ-นามสกุลเดิม ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้สิทธิในโครงการฯ แต่อย่างใด
6. กรณีประชาชนไม่ได้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งผ่านทางเว็บไซต์ หรือ ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปฯ เป๋าตัง (ยืนยันรหัส PIN ของ NEXT หรือผูกบัญชีกรุงไทยบนแอปฯ เป๋าตัง) สามารถทำธุรกรรมแบบใดได้บ้างบนแอปฯ เป๋าตัง สามารถทำธุรกรรมได้ 2 รายการ ดังต่อไปนี้
1. โอนเงินเข้ำบัญชีกรุงไทยของตนเอง
2. โอนเงินพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชนตนเอง (ต้องสมัครก่อน)
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ และผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้ว จะได้รับ SMS ยืนยันว่า “ท่านได้รับสิทธิโปรดใช้สิทธิครั้งแรก ภายใน ...(วันที่) ผ่านแอปฯ เป๋าตัง” โดยระบบจะตัดสิทธิคนละครึ่ง หากไม่ใช้สิทธิภายใน 14 วัน ตลอดโครงการ ซึ่งสามารถใช้ในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. นอกเหนือเวลาดังกล่าว ไม่สามารถใช้สิทธิได้
อีกทั้ง ผู้ที่ได้รับสิทธิ และใช้สิทธิในโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืน สำหรับ ผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th