ตามที่กลุ่มคนในนาม “คณะราษฎร” ประกาศจะกลับมาชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์ ในเวลา 17.00 น. วันนี้ ความคืบหน้าเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น. เจ้าหน้าที่ได้นำแผงรั้วล็อกด้วยสายสลิงมาตั้งขวางทางเข้าสู่แยกราชประสงค์ พร้อมกับเข้าแถวตั้งแนว ขณะที่ผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางมา ก่อนที่ทางแกนนำได้ประกาศเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมไปเป็นบริเวณแยกปทุมวันแทน โดยเริ่มชุมนุมในเวลา 17.00 น.ตามเดิม
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 17.10 น.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยเข้ารวมตัวกันที่บริเวณแยกปทุมวันแล้ว หลังจากนั้น ได้มีรถกระบะสำหรับแกนนำขึ้นปราศรัยเข้ามาจอดในบริเวณชุมนุม โดยมีผู้ปราศรัยช่วงเริ่มต้น คือ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่นนทบุรี
ทั้งนี้ นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้ประสานงานการชุมนุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่ปักหลักพักค้างแต่อย่างใด แต่จะเป็นลักษณะของแฟลชม็อบ โดยจะเลิกการชุมนุมในช่วงเวลาประมาณก่อนเที่ยงคืน ส่วนข้อเรียกร้องยังมี 3 ข้อตามเดิม คือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง ให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญพิจารณารับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และพ่วงด้วยข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้
หลังจากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 17.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรบนถนนพระรามที่ 1 ที่จะเข้าสู่แยกปทุมวันแล้ว และยังคงวางกำลังป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปยังพื้นที่แยกราชประสงค์ไว้ตามเดิม
เวลาประมาณ 18.10 น.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ได้ปรากฏตัวในที่ชุมนุม
ต่อมา เวลา 18.15 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้เดินทางมาบัญชาการการควบคุมการชุมนุมด้วยตนเอง หลังจาหชกนั้นเวลา 18.25 น.แนวแถวของกองกำลังควบคุมฝูงชน ของตำรวจตระเวนชายแดน บนนถนนพระรามที่ 1 ได้เคลื่อนเข้าใกล้บริเวณชุมนุมมากขึ้น พร้อมกับรถฉีดน้ำที่เคลื่อนตามหลังมา และมีการประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบถึงข้อห้ามการชุมนุมทางการเมืองตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จนเวลาประมาณ 18.45 น.แนวของตำรวจเข้าประชิดกลุ่มผู้ชุมนุมในระยะประมาณ 10 เมตร ทำให้ผู้ชุมนุมลุกฮือไปรวมตัวประจัญหน้ากับแนวตำรวจ
หลังจากนั้น เวลา 18.50 น.ตำรวจเริ่มฉีดน้ำผสมสีน้ำเงินที่มีสารเมธิลีนบลูใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งมีรายงานภายหลังว่าเป็นน้ำผสมแก๊สน้ำตาด้วย ทำให้ผู้ชุมนุมรวมตัวกันพยามดันแนวตำรวจที่อยู่หน้าสุดเอาไว้ บางคนพยายามแย่งหมวกกันน็อกและโล่กระบองจากตำรวจ รวมทั้งมีการนำแผงรั้วเหล็กมาดันตำรวจ จนเวลาประมาณ 19.00 น.เจ้าหน้าที่จึงหยุดฉีดน้ำ และทั้งสองฝ่ายถอยห่างออกจากกัน หลังจากนั้นตำรวจได้เปิดทางให้รถบรรทุกน้ำเข้ามาเติมน้ำใส่เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเตรียมปฏิบัติการอีกครั้ง
เวลา 19.12 น.เจ้าหน้าที่เริ่มตั้งแถวและฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมเป็นรอบที่ 2 โดยเคลื่อนรถฉีดน้ำเข้าใกล้ผู้ชุมนุมมากขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็หยุด
จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.20 น.แกนนำไปประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนออกจากแยกปทุมวันไปยังจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนอยู่ที่แยกปทุมวัน ขณะเดียวกันก็มีการนำอุปกรณ์ต่างๆ มาเป็นแนวกั้นระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมเอาไว้
เวลาประมาณ 19.30 น.ตำรวจเริ่มฉีดน้ำเข้าใส่บริเวณแนวการ์ดของผู้ชุมนุมอีกครั้ง หลังจากนั้นได้ตั้งแถวเดินเข้าใกล้แนวกั้นของผู้ชุมนุมขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระยะประชิด และมีการฉีดน้ำเข้าใส่อีกครั้ง พร้อมกับเข้าไปรื้อแนวกั้นของผู้ชุมนุมออก
เวลา 19.45 น.แถวของตำรวจเคลื่อนเข้าหาผู้ชุมนุมอีกครั้ง ผู้ชุมนุมบางส่วนขว้างปาขวดน้ำใส่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำเข้าใส่อีกครั้ง และเคลื่อนแถวคืบหน้าไปเรื่อยๆ
เวลาประมาณ 19.50 น.แกนนำผู้ชุมนุมได้ให้ทีมงานเดินถือโทรโข่งแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่าได้ยุติการชุมนุมแล้วให้กลับบ้านไปก่อน เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัย และให้มาเจอกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไมชัดเจนว่าเป็นที่ไหน ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนใหญทยอยเดินทางกลับ อย่างไรก็ตามยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนที่ยังเผชิญหน้ากับตำรวจที่บริเวณแยกปทุมวัน
เวลาประมาณ 20.20 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกดดันกลุ่มผู้ชุมนุมที่เหลืออยู่เข้าไปเรื่อยๆ จนถึงกลางแยกปทุมวัน ขณะที่ผู้ชุมนุมที่เหลืออยู่ได้ถอยไปยังสะพานหัวช้าง ตำรวจได้ใช้รถฉีดน้ำกดดันให้ผู้ชุมนุมถอยรุ่นไปเรื่อยๆ