เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม 19 กันยายน หลังมีการขุดหลุมในพื้นที่สนามหลวงและมีการฝังหมุดลงบนพื้น พบว่าอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท
จากเหตุการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุม “ธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ได้ทำการปักหมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ลงพื้นปูน โดยมีผู้แต่งตัวคล้ายพราหมณ์ร่วมทำพิธีกรรม พร้อมให้กล่าวคำสาปแช่งพร้อมกันว่า หากใครถอนหมุดนี้ขอให้พบแต่ความวิบัติฉิบหาย เสื่อมลาภ เสื่อมยศ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (20 ก.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “ศรีสุวรรณ จรรยา” ถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำการปักหมดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ลงบนท้องสนามหลวง ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน มาตรา 32 ที่ระบุว่า
ผู้ใดบุกรุกโบราณสถานหรือทำให้เสียหายให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 7 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้ากระทำความผิดตามวรรค 1 เป็นการกระทำต่อโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้วผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โพสต์โดย ศรีสุวรรณ จรรยา เมื่อ วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2020