ย้อนสรุปเหตุการณ์อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ กราดยิงชิงทองลพบุรี ฝีมือ “ผอ.กอล์ฟ” หลังสืบหาความจริงมานาน 232 วัน สู่นัดชี้ชะตาวันนี้ กับ 9 ข้อหาหนัก พบ “ปลอกลดเสียง” นำไปสู่การจับกุมคนร้ายคลี่คลายคดี
ทีมข่าวโซเชียลมีเดีย MGR Online ... รายงาน
ในวันนี้ (27 ส.ค.) ศาลอาญาเตรียมอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.409/2563 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน กรณีก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลพบุรี เสียชีวิต 3 ราย
9 ม.ค. 2563 เวลา 20.45 น. คนร้ายขี่จักรยานยนต์เข้าไปในศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ลพบุรี ต.กกโก อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี ก่อนเดินเข้าไปในห้างฯ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ติดปลอกลดเสียง ยิงคนที่ผ่านไปมา หยุดลงที่ร้านทองออโรร่า ยิงพนักงานร้าน แล้วกวาดทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 28 บาท จากนั้นใช้อาวุธปืนยิง รปภ.เปิดประตูแล้วขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป
เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ หรือน้องไทตัล อายุ 2 ขวบ ถูกยิงที่ศีรษะขณะเดินพร้อมกับผู้ปกครอง, น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ อายุ 31 ปี พนักงานร้านทอง ถูกยิงขณะซ่อนตัวอยู่ที่เคาน์เตอร์ และนายธีระฉัตร นิ่มมา อายุ 33 ปี รปภ. ถูกยิงขณะปิดประตูห้างฯ แล้วกำลังหนีไปซ่อนตัวที่ร้านเคเอฟซี โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุเพียง 3 นาที
22 ม.ค. 2563 หลังตำรวจใช้เวลาคลี่คลายคดีประมาณ 14 วัน กระทั่งชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม จับกุม นายประสิทธิชัย เขาแก้ว อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย ต.หัวไผ่ อ.เมืองฯ จ.สิงห์บุรี ขณะขับรถยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 สีดำ บนถนนสิงห์บุรี-ลพบุรี เพื่อไปทำงาน ก่อนที่ช่วงค่ำจะพบของกลางสร้อยคอทองคำ 31 เส้น ที่โรงรถในบ้านภรรยา
นายประสิทธิชัยให้การรับสารภาพว่า เหตุจูงใจเนื่องจากปัญหาส่วนตัวและเรื่องการเงิน ที่ลงมือกราดยิงเพราะต้องการเปิดทางให้คนกลัว และที่ยิงพนักงานร้านทองซ้ำ อ้างว่าตอนปีนขึ้นตู้กระจกถุงมือไปขัดในไกปืน ส่วนที่ยิงเด็กอ้างว่าไม่เห็น คาดว่าลูกกระสุนแฉลบไปโดนเด็กโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนท่อเก็บเสียงสั่งมาจากเพื่อนรุ่นน้องในอินเทอร์เน็ต ต้องการลดเสียงไม่ให้ดัง
11 ก.พ. 2563 พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสภ ผช.ผบ.ตร.และคณะ ส่งสำนวนคดีต่ออัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง 9 ข้อหา คือ 1. ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่นหรือเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 2. พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น 3. ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส 4. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน 5. พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต
6. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 7. มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ 8. ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและฐานชิงทรัพย์ 9. มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
20 ก.พ. 2563 นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา มีความเห็นสั่งให้ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 ข้อหา ก่อนนำสำนวนฟ้องไปยื่นต่อศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว ศาลอาญาประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา หมายเลขดำที่ อ.409/2563 ก่อนเบิกตัวจำเลยสอบคำให้การ ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
คำฟ้องบรรยายพฤติการณ์ความผิดโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 จำเลยซึ่งมีอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 มม. ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน ได้นำอาวุธพร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิงนายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้างฯ รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไปจนเป็นเหตุให้ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองโอโรร่า จนถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาท ของบริษัท ออโรร่าดีไซน์ จำกัด ผู้เสียหายไปโดยทุจริต ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำฟ้อง อัยการโจทก์ได้ขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะหลบหนี และขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด ทั้งให้จำเลยคืนสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น ราคา 12,300 บาท และจี้ทองคำรูปหัวจรวด น้ำหนัก 1 กรัม ราคา 1,565 บาท หรือใช้ราคาทรัพย์รวมเป็นเงิน 13,955 บาท แก่บริษัท ออโอร่าดีไซน์ฯ ด้วย
8 มิ.ย. 2563 ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อนัดวันสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ โดยพบว่า บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ฯ ผู้เสียหายที่ 4 ยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วม ส่วนทนายของบุพการีนายธีระฉัตร นิ่มมา ผู้เสียหายที่ 2 แถลงต่อศาลไม่ขอเจรจาความทางแพ่ง ศาลจึงรับคำร้องให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ซึ่งคดีส่วนแพ่งให้เข้าสู่ส่วนประนอมข้อพิพาท
16 มิ.ย. 2563 ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์ พ่อของ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองที่ถูกยิงเสียชีวิต กล่าวว่า คู่กรณีมอบเงินเยียวยาแล้ว 2 แสนบาท แต่ไม่คุ้มค่ากับที่สูญเสียไป จึงได้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพิ่ม เพราะที่เรียกไป 3 ล้านบาทจะนำมาเลี้ยงดูลูกชายของ น.ส.ธิดารัตน์ ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ และอยากให้จำเลยถูกลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
23 มิ.ย. 2563 วันสืบพยานโจทก์นัดแรก พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. เบิกความขั้นตอนหาพยานหลักฐานก่อนออกหมายจับ ระบุว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายใช้ปลอกลดเสียง จึงให้ผู้เชี่ยวชาญดูภาพปลอกลดเสียงก่อนพุ่งเป้าหาตัวคนร้าย พบว่าผลิตที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ แล้วขายให้เพื่อนของนายประสิทธิชัย เมื่อปี 2562
กระทั่งวันที่ 18 ม.ค. 2563 หลังเกิดเหตุ 1 สัปดาห์ ตำรวจชุดสืบสวนและกองพิสูจน์หลักฐานตรวจค้นบ้านของนายประสิทธิชัย พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 81 ปลอก และพบรองเท้าสีดำรุ่นคล้ายกับที่ใช้ก่อเหตุ สอบถามเพื่อนนายประสิทธิชัยยอมรับว่าได้ซื้อมาพร้อมกับรองเท้าของนายประสิทธิชัย ที่ร้านใน จ.ระยอง โดยเป็นรุ่น ยี่ห้อและสีเดียวกัน แต่ใส่เบอร์ใหญ่กว่า
นอกจากนี้ยังพบว่า นายประสิทธิชัยเคยนำอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อ Cz p-01 ซึ่งเป็นของบิดามาทดสอบกับปลอกลดเสียงที่บ้าน และทดลองยิงที่บริเวณสนามหลังบ้าน อีกทั้งยังตรวจสอบพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง จอดอยู่ที่บ้านพ่อตาของนายประสิทธิชัย ตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายใช้ระหว่างบ้านพักกับห้างโรบินสัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ประกอบกับสัญญาณโทรศัพท์วันเกิดเหตุ และลักษณะทางกายภาพที่นายประสิทธิชัยบาดเจ็บที่เข่าขวา ต้องใส่สนับเข่าทุกครั้งที่เล่นฟุตบอล ตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ ที่ลักษณะท่าทางการเดินคล้ายกับมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณขา รวมทั้งการใช้เฟซบุ๊ก และหลักฐานอื่นๆ
2 ก.ค. 2563 พนักงานอัยการ นำตัวพยานซึ่งเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของโรงกลึงที่ผลิตชิ้นงานท่ออะลูมิเนียมเพื่อใช้ทำเป็นท่อเก็บเสียง ประกอบอุปกรณ์ตกแต่งปืน มาเบิกความประกอบพยานฝ่ายโจทก์
กระทั่งล่าสุด มีรายงานว่า ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาคดีนายประสิทธิชัย ในวันที่ 27 ส.ค. 2563 เวลา 09.00 น. โดยจะมีการเบิกตัวนายประสิทธิชัยจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ารับฟังคำพิพากษาด้วย