ดูไว้นะลูก 1 ใน 9 ผู้ต้องหาที่อดีตทูตไทยในอาร์เจนตินาฟ้อง หลัง “ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” โพสต์เท็จ ด่าหยาบคาย ประกาศขอขมา เหตุคึกคะนอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ สุดช้ำหลังถูกแจ้งความ เจ้าตัวไม่สำนึก แถมทอดทิ้งไร้ความเห็นใจและช่วยเหลือใดๆ ด้านอดีตทูตฯ ถอนฟ้องแล้ว
จากกรณีที่ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เข้าแจ้งความที่ สน.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ลี้ภัยการเมืองในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรวม 9 ราย ในข้อหาหมิ่นประมาทและดูหมิ่นด้วยการโฆษณา เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังนายปวินโพสต์ข้อความด่านายนริศโรจน์ ด้วยข้อความหยาบคาย และผู้ใช้เฟซบุ๊กอีก 9 ราย คอมเมนต์ในลักษณะดูหมิ่นและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทำให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : ให้มันจบที่ตะราง! อดีตทูตไทยในอาร์เจนตินาฟ้อง “ปวิน” หมิ่นประมาท ลูกเพจไม่รอดแถมถูกเท
วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ผู้ต้องหาที่นายนริศโรจน์ แจ้งความดำเนินคดี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ตามที่ข้าพเจ้าได้ใช้เฟซบุ๊กไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Pavin Chachavalpongpun” ซึ่งใส่ความนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล ด้วยความเท็จ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายนั้น บัดนี้ข้าพเจ้าได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว จึงทราบว่า การแสดงความคิดเห็นของข้าพเจ้าเป็นความเท็จ และก่อให้เกิดความเสียหาย ความจริงคือ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล เป็นข้าราชการที่มีความประพฤติดี ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย หรือทุจริต หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมตามที่ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ กล่าวหาแต่อย่างใด ข้าพเจ้าจึงสำนึกผิด และขอแสดงความขอโทษต่อนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล มา ณ โอกาสนี้ โดยข้าพเจ้าจะไม่กระทำการใดให้นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล เสื่อมเสียอีก
อนึ่ง ข้าพเจ้าได้ประสบการณ์จากเรื่องนี้ว่าการกระทำด้วยความคึกคะนอง และรู้เท่าไม่ถึงการณ์จากการถูกปลุกปั่นยุยงด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จนั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น และในท้ายที่สุดผู้ที่ปลุกปั่นยุยงพวกเราด้วยความเท็จก็มิได้มีสำนึกที่จะรับผิดชอบในการกระทำของตนเอง และทอดทิ้งให้เราต้องรับผลกระทบโดยปราศจากการแสดงความเห็นใจ หรือการให้ความช่วยเหลือใดๆ ข้าพเจ้าจึงขอเตือนไปยังเพื่อนๆ ให้ทราบว่า พวกเราจะต้องมีสติในการเสพข่าวสาร และไม่ตกเป็นเครื่องมือจากการยั่วยุทางการเมืองของบุคคลใด ทั้งการแสดงความคิดเห็นใดๆ จักต้องอยู่บนพื้นฐานการเคารพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ มิฉะนั้นแล้ว ในท้ายที่สุดเราก็จะถูกทอดทิ้งให้รับผิดชอบตนเองแต่เพียงลำพังเท่านั้น”
ด้านเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ของนายนริศโรจน์ ระบุว่า 1 ใน 9 ผู้ต้องหาได้ขึ้นข้อความขอโทษตนอย่างเป็นทางการแล้ว และตนยินดีถอนคดีให้ต่อไป ทั้งนี้ เป็นดุลพินิจของตนเองที่ได้ไตร่ตรองแล้วจากการที่ได้คุยกับผู้ต้องหา ซึ่งปัจจุบันก็รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วโดยให้ความร่วมมือด้วยดี และที่ตนดีใจคือ ผู้ต้องหาได้กลับมาเป็นแนวร่วมตน และช่วยบอกต่อไปยังเพื่อนๆ ว่าเรื่องราวที่แท้จริงเป็นอย่างไร ขอความกรุณาเพื่อนๆ โปรดคอมเมนต์ด้วยความสุภาพและให้เกียรติกันด้วย
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่