xs
xsm
sm
md
lg

เสี่ยแอ๊ด “มุมอร่อย” เจ้าของร้านอาหารและนักธุรกิจชื่อดัง แจ้งความดำเนินคดี จนท.ป่าไม้บุกรุกที่ดินพิพาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จนท.ป่าไม้ เข้าพื้นที่พิพาทที่ดิน เสี่ยมุมอร่อย เจอแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่ดินโดยมิได้รับอนุญาต แถมมีอาวุธปืน มีด เหมือนบุกเข้ามาจับคนกระทำความผิดร้ายแรง

วันนี้ (16 ก.ค.) นายสุรเทพ โตพานิชย์ หรือ เสี่ยแอ๊ด อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/8 ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ มอมุงคุณ พนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า ได้มี นายนิพนธ์ เกษมสวัสดิ์ จนท.ป่าไม้อาวุโส หัวหน้าฝ่ายป้องกันส่วนอนุรักษ์ และป้องกันทรัพยากร สำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 อ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี น.ส. มณีรัตน์ ศรีวัฒนานนท์ เจ้าหน้าที่สวนป่าสวนป่าสิริเจริญวรรษ พร้อมพวกอีกหลายคน เพื่อดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่ดินครอบครอง ส.ค.1 เลขที่ 244 และ 245 โดยมีอาวุธปืน และอาวุธมีด เข้าไปในพื้นที่ โดยไม่แจ้งผู้ครอบครองที่ดินก่อน โดยมี พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน นายสุพจน์ โตพานิชย์ หรือ เสี่ยอู๊ด น้องชายของ นายสุรเทพ มาร่วมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นสักขีพยานในการลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

นายสุรเทพ กล่าวว่า ก่อนที่จะนำเรื่องมาแจ้งความดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เข้ามาในพื้นที่เอกสารสิทธิครอบครอง โดยไม่ได้รับการแจ้ง หรือขออนุญาตเข้ามาในพื้นที่มาก่อน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ที่ติดตาม นายนิพนธ์ เกษมสวัสดิ์ จนท.ป่าไม้อาวุโส หัวหน้าฝ่ายป้องกันส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 อ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี น.ส.มณีรัตน์ ศรีวัฒนานนท์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมพวก ได้นำอาวุธมีด อาวุธปืน ติดตัวเข้ามาด้วย ในฐานะประชาชนก็ย่อมมีความรู้สึกตกใจ อีกทั้งตัวเอง และครอบครัว ก็มีคนรู้จักนับถือ การกระทำแบบนี้ก่อให้เกิดความเสียหาย อับอาย ต่อสาธารณชน ที่พบเห็นเหมือนตัวเอง และตระกูล กระทำความผิด เนื่องจากที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบกันอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน กล่าวว่า กรณีที่ทางด้าน นายสุรเทพ พร้อมทั้ง นายสุพจน์ โตพานิชย์ เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้นั้น ได้ให้พนักงานสอบสวน มารับข้อร้องทุกข์ไว้แล้ว ส่วนการดำเนินการต่อไปคงต้องมีหนังสือแจ้ง พร้อมเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ว่า การเข้ามาครั้งนี้มีเหตุผล และวัตถุประสงค์ใด ในการเข้าพื้นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้แจ้งหรือไม่ ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น