รัฐบาลการ์ดตก ปล่อยผ่านเคสทหารอียิปต์ ทำเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระยอง พังพินาศฉิบหายในวันเดียว เจ้าของโรงแรมโกลเด้น ซิตี้ ระยอง ร่ำไห้ ลูกค้ายกเลิกการจอง 90% ที่เหลือต้องขอร้อง พบหลายโรงแรมยังใจดีสู้เสือ เปิดบริการปกติ พร้อมย้ำมาตรฐานความปลอดภัย แม้โรงแรมต้นเหตุจำใจปิดบริการไม่มีกำหนด กางสถิติการท่องเที่ยวแล้วใจหาย จากนักท่องเที่ยวแตะ 7 แสน เหลือไม่ถึง 5 พัน
วันนี้ (14 ก.ค.) จากกรณีที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นทหารวัย 43 ปี สัญชาติอียิปต์ เป็นหนึ่งใน 31 ลูกเรือ ที่ได้รับการยกเว้นตามข้อกำหนดมาตรา 9 ฉบับที่ 6 เดินทางจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และปากีสถาน ถึงท่าอากาศยานอู่ตะเภา ประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ก่อนเข้าพักที่โรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง แล้วไปทำภารกิจทางการทหารที่เมืองเฉินตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนที่วันที่ 10 ก.ค. กลุ่มลูกเรือจะแยกกันไปเที่ยวศูนย์การค้าแพชชั่น ช็อปปิ้ง เดสติเนชั่น (ห้างแหลมทอง ระยอง) และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง กระทั่งเดินทางกลับเมื่อวันที่ 11 ก.ค. และตรวจพบเชื้อ ทำให้ชาวจังหวัดระยองทราบข่าวพากันหวาดผวา กลัวว่า จะติดเชื้อโควิด-19 ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
นางอนุชิดา ชินศิรประภา ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดระยอง และเจ้าของโรงแรมโกลเด้น ซิตี้ ระยอง เปิดเผยว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 สร้างผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของชาวระยอง ล่าสุดตนถึงกับร้องไห้กับพนักงานโรงแรม หลังทราบว่า มีลูกค้าโทรศัพท์มายกเลิกการจองห้องพักไปแล้ว 90% ที่เหลือถึงกับขอร้องว่าอย่าเพิ่งยกเลิก เพราะทางโรงแรมได้เตรียมอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกครบแล้ว ในวันนี้ยังมีลูกค้าเข้าพักเป็นชุดสุดท้าย พรุ่งนี้ก็ไม่เหลือลูกค้าเข้าพักอีกแล้ว เพราะถูกยกเลิกการจองไปทั้งหมด นับเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก ทั้งๆ ที่กำลังเริ่มดีขึ้น แต่ก็ต้องกลับมาเป็นศูนย์เหมือนกับช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องการให้ภาครัฐมีมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการคัดกรองและเปิดเผยความจริงให้ประชาชนทราบโดยเร็ว ควรจะบอกจุดที่ตรวจพบเชื้อและสถานที่ผู้พบเชื้อเดินทางไปให้ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนเดากันเอง ทำให้เกิดความเสียหายไปทั่ว ที่สำคัญคือ มาตรการการผ่อนปรน ควรมีการคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ไม่ควรอ้างสิทธิพิเศษหรือสิทธิใดๆ แก่บุคคลใดๆ ทั้งสิ้น จากนี้ทางโรงแรมก็ได้แต่หวังว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันยกเลิกการจองที่พักเป็นจำนวนมาก รวมถึงรีสอร์ตบนเกาะเสม็ด แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดระยอง แม้โรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง จะประกาศปิดทำการโรงแรมโดยไม่มีกำหนด อย่างต่ำไม่น้อยกว่า 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 2563 เพื่อทำความสะอาดและอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคในทุกพื้นที่ของโรงแรม เพื่อความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพัก และเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม แต่พบว่าโรงแรมชั้นนำในจังหวัดระยองส่วนใหญ่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เช่น โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ ระยอง, โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น ระยอง, โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์สวีท ระยอง ซิตี้ เซ็นเตอร์, โรงแรมแทมมารินด์การ์เด้น รวมทั้งโรงแรมทั้ง 3 แห่ง ในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี จังหวัดระยอง ได้แก่ โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง, โรงแรมคลาสสิค คามิโอ ระยอง และ โรงแรม คามิโอ แกรนด์ ระยอง พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้าพัก ด้วยมาตรการคัดกรองและการควบคุมความปลอดภัยของโรงแรมต่างๆ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโรงแรมในจังหวัดระยองที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand Safety & Health Administration (Thailand SHA) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จำนวน 24 แห่ง
อีกด้านหนึ่ง ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ รายจังหวัด ปี 2563 ข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งประมวลผลจากจำนวนผู้เข้าพักแรมในสถานพักแรมเป็นหลัก พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยว (ผู้เยี่ยมเยือน) ทั้งหมดเหลือเพียง 4,885 ราย ล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยทั้งหมด เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 737,996 คน แบ่งออกเป็นคนไทย 702,931 คน ชาวต่างชาติ 35,065 คน ขณะที่เดือนเมษายน 2563 ซึ่งอยู่ในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ และการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าพักแรมในจังหวัดระยองแม้แต่คนเดียว เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2562 ที่มีวันหยุดทั้งวันจักรีและเทศกาลสงกรานต์ มีจำนวนนักท่องเที่ยว 764,451 คน แบ่งออกเป็นคนไทย 729,550 คน ชาวต่างชาติ 34,901 คน