เปิดรายละเอียด 11 กลุ่ม ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ในสภาวะการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุชัดเจนต้องปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ เผยคณะทูตหรือผู้แทนรัฐบาลพาเข้าได้ทั้งครอบครัว
จากกรณีที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวระบุว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย หนึ่งในนั้นคือทหารวัย 43 ปี สัญชาติอียิปต์ เป็นลูกเรือที่ได้รับการยกเว้นตามข้อกำหนดมาตรา 9 ฉบับที่ 6 เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง อ.เมืองฯ จ.ระยอง แล้วไปทำภารกิจทางการทหารที่เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนจะเดินทางกลับวันที่ 11 ก.ค. อีกทั้งยังพบว่าทีมลูกเรือนี้ได้ออกจากโรงแรมไปยังห้างสรรพสินค้าบางแห่งในระยองอีกด้วย ทำให้สังคมต่างวิจารณ์ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การ์ดตกเสียเองที่ปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้ามาแพร่เชื้อ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ราชกิจจานุเบกษาได้ออกประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยมีรายละเอียดเกี่ยวการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล 11 กลุ่มที่ได้รับการยกเว้นให้เข้าประเทศไทยได้ โดยมีใจความว่า
สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงมีความรุนแรงในต่างประเทศ ประกอบกับจะมีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการจัดการคัดกรองพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรการป้องกันโรค และเพื่อควบคุมและป้องกันมิให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย 11 กลุ่มที่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่นายกรัฐมนตรีหรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ดฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกำหนด เพื่อการป้องกันการระบาดของโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้แยกกัน กักกัน สำหรับผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ดังต่อไปนี้
1. ผู้มีสัญชาติไทย
2. ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
3. บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศ ซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดา มารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
4. ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว
5. ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ ซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ และมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
6. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
7. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
8. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
9. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทย ที่ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว ยกเว้นนักเรียนหรือนักศึกษาของโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือของสถานศึกษาอื่นของเอกชนที่มีลักษณะคล้ายกัน
10. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด-19
11. ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ (special arrangement) กับต่างประเทศ