สายการบินแอร์เอเชียประกาศยกเลิกโหลดน้ำหนักกระเป๋าฟรี 7 กิโลกรัม สำหรับสัมภาระพกพา แต่อนุญาตให้นำสัมภาระพกพาติดตัวขึ้นเครื่องได้ตามปกติ หากต้องการซื้อน้ำหนักก่อนเดินทาง ต้องจ่ายเริ่มต้นที่ 480 บาท
วันนี้ (7 ก.ค.) เป็นวันแรกที่สายการบินแอร์เอเชีย อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถนำสัมภาระพกพาติดตัวขึ้นเครื่องได้ตามปกติ น้ำหนักรวมไม่เกิน 7 กิโลกรัม เพื่อให้เกิดความสะดวกเเละเข้ากับสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งนี้ ได้ประกาศยกเลิกการโหลดน้ำหนักฟรี 7 กิโลกรัม สำหรับสัมภาระพกพา (Cabin Baggage) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สำหรับขนาดสัมภาระพกพา (Cabin Baggage) ของสายการบินแอร์เอเชีย ประกอบด้วย 1. กระเป๋าสัมภาระจะต้องมีขนาดไม่เกิน 56x36x23 เซนติเมตร สามารถนำขึ้นเก็บที่ช่องเก็บสัมภาระด้านบนได้ 2. กระเป๋าขนาดเล็ก เช่น กระเป๋าคอมพิวเตอร์ กระเป๋าถือ กระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าอื่นๆ ขนาดไม่เกิน 30x40x10 เซนติเมตร เก็บไว้ใต้เบาะที่นั่งด้านหน้าได้ ขึ้นเครื่องได้เช่นเดียวกัน รวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่สายการบินแอร์เอเชียกลับมาให้บริการอีกครั้ง เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา เฉพาะเส้นทางในประเทศไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสัมภาระชั่วคราว เพื่อให้เกิดการรักษาระยะห่างทางสังคมในระหว่างขึ้นและลงเครื่องบิน โดยสามารถนำกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องได้ฟรี โดยต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และจะไม่ถูกนับรวมกับน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่องตามปกติ แต่ภายหลังได้ประกาศยกเลิกการโหลดน้ำหนักฟรี 7 กิโลกรัมดังกล่าว
สำหรับค่าธรรมเนียมสัมภาระใต้ท้องเครื่อง กรณีที่สำรองที่นั่้งล่วงหน้าไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ซื้อน้ำหนักสัมภาระ พบว่า 15 กิโลกรัม 480 บาท, 20 กิโลกรัม 510 บาท, 25 กิโลกรัม 650 บาท, 30 กิโลกรัม 1,020 บาท และ 40 กิโลกรัม 1,260 บาท แต่ถ้าไม่ได้ซื้อน้ำหนักสัมภาระล่วงหน้า ต้องจ่ายที่เคาน์เตอร์เช็กอินในราคาแพงกว่าเท่าตัว