นักวิชาการอิสระ โพสต์วิจารณ์ผู้มีอำนาจหลังพบเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง โผล่สั่งลบภาพบนผนังวัดที่มีภาพบุคคลคล้าย “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ลอยคออยู่ในฉากผจญมาร พระแม่ธรณีบีบมวยผม
จากกรณีโซเชียลมีเดียแห่แชร์ภาพบนผนังโบสถ์ภายในวัดหนองเต่า หลวงปู่ทิมดำทิมขาว อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ที่ศิลปินได้วาดรูปตำนานส้มหยุด ของ “สิตางศุ์ บัวทอง” ที่โด่งดังจากคลิปไวรัล ในแอปพลิเคชัน TikTok เผย เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่ทุกคนต้องจดจำ
ต่อมานักวิชาการศาสนาชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุทัยธานี นายธรรมนันท์ จุฑาธนทรัพย์ และ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์วัดหนองเต่า ต.อุทัยเก่า อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับความเหมาะสมของภาพที่มีภาพของสิตางศุ์ บัวทอง เจ้าของวลีส้มหยุด ที่ปรากฏในภาพตามที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ เผยว่า ภาพเหมือนสิตางศุ์ บัวทองนั้น แม้ภาพจะมีขนาดไม่ใหญ่ แต่อิริยาบถมีความไม่เหมาะสม อาจจะเป็นการบิดเบือน เพราะการเฝ้ารับเสด็จพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ตั้งตารอคอย ภาพต้องมีความเหมาะสมมากกว่านี้ แต่ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ไม่เงยหน้า กลับก้มหน้าและชี้ไปที่ผลส้ม ซึ่งได้คำแนะนำกับทางศิลปินว่าให้ดูถึงความเหมาะสม ภาพจะเป็นภาพของสิตางศุ์ บัวทอง ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ได้แนะนำให้แก้ภาพให้เป็นลักษณ์ยกมือไหว้ก็จะเหมาะสมกว่า
ล่าสุด วันนี้ 5 มิ.ย. วรา จันทร์มณี นักวิชาการอิสระ อดีตเลขาฯ ส่วนตัวท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ ได้โพสต์รูปภาพเจ้าหน้าที่กรมการปกครองยืนตรวจสอบบริเวณภาพที่เผยให้เห็นคนลอยคอ ดูคล้าย พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ที่ช่างเขียนได้สอดแทรกเป็นอรรถรสเล็กๆ ไปในฉาก ‘ผจญมาร’ พระแม่ธรณีบีบมวยผม และสั่งให้มีการลบภาพดังกล่าว
โดยทางผู้โพสต์ได้ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกชอบใช้อำนาจ แต่เป็นเรื่องไม่ปกติของสังคมอารยะที่เปิดกว้างมีประชาธิปไตย ในบ้านเมืองที่เจริญ ผู้นำต้องพร้อมที่จะรับฟังข้อวิพากษ์วิจารณ์ ข้าราชการมีสำนึกรับใช้ให้เกียรติประชาชน มิได้ทำตัวเป็นนายและตักตวงคอร์รัปชันแบบตะกละตะกลามเหมือนในบางประเทศ
เมื่อพูดถึงผู้นำที่ดีมีอยู่คราวหนึ่งที่ หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช พูดถึงท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ แล้วถูกท่านอังคารโต้กลับด้วยการเขียนจดหมายบริภาษ แต่อาจารย์หม่อมก็ไม่โกรธ กลับชอบใจ เอาจดหมายใส่กรอบแขวนโชว์ แถมชมเปาะว่าลายมือท่านอังคารสวย นี่คือเสน่ห์ของผู้นำชั้นสูง ถูกผิดดีเลวผิดพลาดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสามัญมนุษย์ รับฟังได้ ถูกด่าได้ แก้ไขได้ สำนึกผิดได้ ไม่ถึงกับคลุ้มคลั่งจะเป็นจะตายอะไรนักหนา
ผู้นำชั้นสูงของไทย เขาวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยภาษาสละสลวย มีภูมิปัญญาและมีขันติธรรม ผู้นำจีนเขาอ่านหนังสือ เวลาเขาจะด่าใคร เขาร่ายกวีด่ากันในสภา รสนิยมทางศิลปะคือสุนทรียะของชีวิต/สังคม จิตใจที่กว้างขวางไร้อัตตาของผู้นำ ส่งเสริมบรรยากาศแห่งความสงบสุข ความสงบเกิดจากภูมิธรรม เมื่อผู้นำมีขันติธรรม บ้านเมืองย่อมมีขันติธรรม หากผู้นำกักขฬะหยาบกร้าน สมุนที่รับใช้ก็เหลิง มีสันดานกักขฬะชั้นต่ำตามนาย
ผู้นำที่ดีย่อมมีจิตอันเป็นกุศล ลดละมานะ ห่างไกลจากกิเลสมิจฉาทิฏิ พร้อมที่จะรับฟังปัญหาหรือความเห็นต่างโดยดุษฎีเพื่อแก้ไข ปรับปรุงตัว พัฒนาบ้านเมืองให้รุ่งเรืองขึ้น การซุกปัญหาไว้ใต้พรม ใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่ราษฎร แม้จะลบภาพออกจากจิตรกรรมฝาผนัง ก็มิอาจลบความทรงจำหรือประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายที่ฝังอยู่ในใจประชาชน
หากชายที่สวมเสื้อดำของกรมการปกครอง คือ คนของกรมการปกครองจริง สิ่งที่เขากระทำในครั้งนี้ย่อมเป็นครุกรรม เป็นบาปหนัก ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำว่ากรมการปกครอง #ใช้อำนาจเป็นธรรมมิได้ถือธรรมเป็นอำนาจ มันล้าสมัยไปแล้วครับสำหรับยุคนี้ และเขานั่นแหละคือตัวบั่นทอนสร้างความฉิบหายเสื่อมเสียให้องค์กร การกระทำของเขาเหมือนจะปกป้องแต่กลับทำร้ายนาย ทำลายความศรัทธาและเพิ่มความเกลียดชังในใจของประชาชนซึ่งมีมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
หากเป็นการกระทำของกรมการปกครองจริง การกระทำในครั้งนี้เป็นอนันตกรรม เป็นชัยชนะที่พ่ายแพ้ของกรมการปกครอง