รอง ผกก.กุมภวาปี สงสารน้อง ส.ต.ต. ลางานจากกรุงเทพฯ ไปขอใบ ป.3 ซื้อปืนสวัสดิการ ซิก ซาวเออร์ แต่ทางอำเภอให้ไปตรวจสุขภาพจิต แถมรองผู้ว่าฯ ตามไปกำชับอีกว่า “ต้องส่งตัวไปตรวจโรคจิตก่อน” ชี้คนที่มีปืน ทำไมไม่เอามาตรวจบ้าง มีวงรอบการตรวจไหม ถามกลับมั่นใจได้ไงว่า รองผู้ว่าฯ พกปืนแล้วจะไม่คลั่ง ชี้คนละเรื่องกับจ่าคลั่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล หรือ “รองโก้” รองผู้กำกับการ (สืบสวน) สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี กล่าวแสดงความคิดเห็นกรณีที่ตำรวจยศ “สิบตำรวจตรี” นายหนึ่งลางานกลับบ้านทางภาคอีสานตอนบน เพื่อขอใบอนุญาตให้ซื้อปืน (ป.3) นำไปซื้อปืนในโครงการจัดหาอาวุธปืนพกประจำกาย ซิก ซาวเออร์ โมเดล P365. เพื่อเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจ แต่ทางอำเภอให้ไปตรวจสุขภาพจิตเพื่อประกอบการขอใบ ป.3 โดยแจ้งว่า เป็นหนังสือสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับเหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งยังถูกรองผู้ว่าราชการจังหวัดไปกำชับที่อำเภออีกว่า “ต้องส่งตัวไปตรวจโรคจิตก่อน” ระบุว่า
“เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีน้อง ส.ต.ต. รับราชการที่ กทม. ลางานเดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดแห่งนึงทางอีสานตอนบน เพื่อขอใบ ป.3 ซื้อปืน sig p 365 แต่ทางอำเภอให้ไปตรวจสุขภาพจิตเพื่อประกอบการขอใบ ป.3 โดยแจ้งว่า เป็นหนังสือสั่งการของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ด้วยความห่วงใยกลัวว่า ออกใบ ป.3 ให้ไปซื้อปืนแล้ว จะนำมาก่อเหตุแบบจ่าคลั่งที่โคราช แถมยังมีท่านรองผู้ว่าฯ ไปกำชับที่อำเภออีกว่า ต้องส่งตัวไปตรวจโรคจิตก่อน สมัยท่านเป็นนายอำเภอ ต้องให้สวดมนต์ก่อนด้วยซ้ำ
ผมก็เกิดข้อสงสัยว่า การตรวจโรคจิตประกอบการขอใบ ป.3 สามารถทำให้ไม่เกิดเหตุแบบเดียวกันกับกรณีจ่าคลั่งจริงมั้ย? แล้วคนที่เค้าไม่ได้มาขอใบ ป.3 แล้วเค้ามีปืนล่ะ ไม่เอามาตรวจโรคจิตบ้างเหรอ หรือการตรวจต้องมีวงรอบการตรวจยังไง กี่ปี กี่เดือน กี่วัน ต่อการตรวจรอบหนึ่งดี ถ้ามันช่วยได้ ผมยินดีให้ความร่วมมือนะ เอามาตรวจให้หมดทั้งจังหวัดเลย ใครที่มีปืน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอาวุธปืนเป็นของตนเอง แต่สามารถเบิกปืนจากทางหน่วยงานมาใช้ด้วย ที่สำคัญ ตัวท่านๆ ทุกคนก็ต้องตรวจ แก้ปัญหาแค่ตรวจโรคจิตประกอบการใบ ป.3 มันปลายเหตุแล้ว ผมเองก็ไม่ได้ซื้อเลยไม่ได้ไปขอ แต่ผมมีปืนส่วนตัวที่ซื้อมาทำงานอยู่ 2 กระบอก ผมไม่ต้องตรวจโรคจิตเหรอ แล้วมั่นใจได้ไงว่าผมจะไม่คลั่งแล้วท่านเองผมก็เห็นพกปืน ท่านจะไม่คลั่งเหรอ ท่านตรวจยัง?
ถ้ามันไม่มีประโยชน์อย่าทำเลยครับ สงสารน้องมัน ต้องลางานมา เสียค่าใช้จ่าย เสียเวลาทำงาน แล้วต้องไปต่อคิวตรวจโรคจิตอีก ก่อนเป็นตำรวจเค้าก็ตรวจแล้ว ถึงไม่มีปืนส่วนตัว น้องมันก็เบิกปืนหลวงใช้ได้อยู่ดี
ชีวิตผมทุ่มเทกับการทำงานในอาชีพตำรวจ เสียเงินซื้อปืน โล่กันกระสุน แทบทุกคนก็ซื้อปืนมาใช้ทำงานเอง กระสุนปืนทั้งฝึกซ้อมเองและเอามาสอนลูกน้องยิงปืน หมดเงินไปหลายล้านแล้ว จับโจรมาเป็นพันคดี วิสามัญ 3 คดี ท่านไม่คิดบ้างเหรอว่าพวกผมเอาปืนไปทำอะไร ผมก็ใช้ปืนที่ผมซื้อเองนี่แหละป้องกันตัว ให้ตำรวจไปตรวจโรคจิตประกอบการขอใบ ป.3 มันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติจริงเหรอครับ
ท่าน ผบ.ตร. ทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสวัสดิการให้ตำรวจ ปืนราคาถูกกว่าครึ่งของราคาปืนจริงในท้องตลาด ด้วยท่านเห็นใจในความเสียสละของตำรวจที่ต้องซื้อปืนมาใช้บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับชาวบ้าน กว่าโครงการจะสำเร็จต้องทุ่มเทหลายอย่าง เป็นท่านท่านจะซื้อมั้ยล่ะครับ ปืนราคา 7-8 หมื่นบาท เราซื้อได้ราคาไม่ถึง 3 หมื่นบาท สั่งปืนมาแล้ว ปืนมาถึงแล้ว แต่แจกจ่ายไม่ได้ ทำไงล่ะครับ ค้างอยู่สรรพาวุธสิครับ
บางคนต้องรอเพื่อนๆ ได้ใบ ป.3 แล้วออกเงินค่าน้ำมันช่วยกัน แล้วลงไปรับปืนที่ กทม. คนมีเงินก็ไม่ซีเรียสหรอกครับ แต่ส่วนใหญ่เค้าไม่ได้มีเงินแบบท่าน
ผมเองไม่ได้ซื้อนะครับ แค่ไม่เห็นด้วยในความห่วงใยที่ต้องให้ตำรวจไปตรวจโรคจิตก่อน เพียงเพราะเหตุผลที่หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบจ่าคลั่งเท่านั้นเอง
จ่าคลั่งเค้าก็ไม่ได้ใช้ปืนที่มีใบ ป.4 มาก่อเหตุนะครับ ถึงท่านตรวจโรคจิตตำรวจที่มาขอใบ ป.3 ก็ไม่สามารถป้องกันเหตุดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอยู่ดี
ยาวหน่อยนะครับ วันนี้ว่าง ไม่ถูกใจใคร ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ ด้วยความเห็นใจ ส.ต.ต.คนดังกล่าว โดยที่ผมไม่รู้จักเค้าด้วยซ้ำ”