ภาพประทับใจ ขณะที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ช่วยกันเข็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างให้คุณลุงท่านหนึ่ง ที่รถเสียและกำลังเข็นขึ้นสะพาน และไม่สามารถเข้าที่พักทันเวลาเคอร์ฟิว โดยยืนยันไม่ดำเนินคดีแน่นอน ตำรวจชี้กฎหมายต้องคู่คุณธรรม
จากกรณีที่รัฐบาลประกาศห้ามบุคคลใดทั่วประเทศออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 เริ่มวันที่ 3 เมษายน จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงนั้น โดยกำหนดโทษไว้ว่า หากใครฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เฟซบุ๊ก “Issara Samarkrob” หรือ สิบตำรวจเอก อิศรา สมัครบ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยาได้โพสต์คลิปวิดีโอ ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ และได้เจอกับลุงท่านหนึ่ง ซึ่งจักรยานยนต์พ่วงข้างเสีย และไม่สามารถขับขี่ต่อได้ และคาดว่า น่าจะเลยเวลาเคอร์ฟิวที่รัฐบาลประกาศ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยเข็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปส่งคุณลุงถึงที่หมาย และยืนยันว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะดำเนินคดี แค่จะช่วยส่งให้ถึงที่หมายเท่าที่จะทำได้
โดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า “รถเสีย ทำให้ลุงกลับที่พักไม่ทันเวลาเคอร์ฟิว ไม่ต้องกลัวว่าพวกผมจะจับกุมดำเนินคดี แต่จะช่วยส่งลุงให้ถึงที่หมายเท่าที่พวกผมจะทำได้กฎหมายต้องคู่คุณธรรม”