ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม หรือ ผู้กองเบนซ์ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ออกมาอัดคลิปกว่า 2 นาที ขอโทษเกี่ยวกับปมเหยียด “กระจอก” ซ้ำเติมเหยื่อโควิด-19 อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ โพสต์ขอโทษในเพจไปแล้ว พร้อมรับปากจะปรับเปลี่ยนวิธีนำเสนอจะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกต่อไป
จากกรณีที่ ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม อายุ 34 ปี หรือ ผู้กองเบนซ์ อดีตข้าราชการตำรวจที่ลาออกมาทำงานเป็นไลฟ์โค้ช และเป็นแอดมินเพจ “ผู้กองเบนซ์-Capt.Benz” ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.38 ล้านคน ได้โพสต์วิดีโอคลิปในหัวข้อ “วิธีคิดให้โควิดเป็นโอกาส” โดยในตอนหนึ่งกล่าวว่า คนเรามีโอกาสมากมายรออยู่ แต่หลายคนกลับยึดติด คิดลบ ขี้เกียจ ฟุ้งซ่าน เสพแต่คอนเทนต์ที่ปลุกความกระจอกในตัวเอง เอาแต่เรียกหาความรับผิดชอบจากคนอื่น ให้กลับมาคิดว่าที่ฉิบหายทุกวันนี้เป็นเพราะวิกฤต หรือเป็นเพราะวินัยของตัวเองกันแน่ พร้อมยกตัวอย่างจากต่างประเทศ ทำให้ชาวเน็ตส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการพูดซ้ำเติมคนที่ได้รับผลกระทบ เพราะทุกคนไม่ได้มีโอกาสและต้นทุนชีวิตที่เท่ากัน โยงไปพูดถึงอาชีพไลฟ์โค้ชว่าเป็นอาชีพที่หากินกับความฝันและความหวังของคนอื่น และในความเป็นจริงไม่มีใครประสบความสำเร็จจากการให้คนอื่นมาโค้ชชีวิตให้ มีแต่โค้ชเท่านั้นที่รวยเอา
ต่อมา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เจ้าตัวโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเพจ “ผู้กองเบนซ์-Capt.Benz” ระบุว่า “ถ้าผมได้พูดหรือทำอะไรผิดพลาดไป หรือกระทบกระเทือนจิตใจใครไปบ้าง ผมขออภัยทุกท่านจากใจจริงนะครับ และขอขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมจะนำไปปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ” ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ท่าทีของผู้กองเบนซ์อ่อนลง ไม่มีการบล็อกผู้คนหรือชาวเน็ตที่เห็นต่างมาวิจารณ์เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา ซึ่งเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์เรื่องการใช้คำพูดแรงว่าตนเป็นคนถ่อยอยู่แล้ว เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เรียบร้อยไม่ได้ เรียบร้อยแล้วอึดอัด
ล่าสุด วันนี้ (17 เม.ย.) ผู้กองเบนซ์ ออกมาอัดคลิปวิดีโอความยาวกว่า 2 นาที ซึ่งในคลิปวิดีโอ เจ้าตัวได้กล่าวขอโทษและขอบคุณ ผู้ที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ จนทำให้ติดอันดับ 1 ของเทรนด์ทวิตเตอร์ นอกจากนี้ ยังบอกอีกว่า ขอบคุณทุกท่านที่ทำให้ตัวเองเข้าใจคำว่าทุกข์มากยิ่งขึ้น ทั้งทุกข์ของตนเองและทุกข์ของผู้คน และยอมรับว่าในช่วงที่เกิดเรื่องตนเองนั้นรู้สึกเป็นทุกข์จริงๆ อีกทั้งยังยอมรับว่าสิ่งที่ตนเองทำเป็นสิ่งที่ผิดพลาด แม้จะมีหลายคนเข้ามาให้กำลังใจว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ผิดอะไร พร้อมสัญญาว่า จะปรับเปลี่ยนวิธีนำเสนอจะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกต่อไป
