หนุ่มส่งอาหารถูกดำเนินคดีแถมนอนคุก 1 คืน เหตุกลับบ้านไม่ทันเคอร์ฟิว วอนขอความเป็นธรรม หลังดูแถลงรัฐบาลบอกพนักงานส่งอาหารได้รับการยกเว้น แต่เจ้าหน้าที่ปกครองไม่มีความเข้าใจตรงกัน ทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน จึงวอนให้สื่อสารตรงกัน อย่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
วันนี้ (6 เม.ย.) เฟซบุ๊ก “เมืองทองฯในจิตแมนฯยูฯ ในใจ” ได้ออกมาเผยเรื่องราวของตนเองที่โดนดำเนินคดีจากการรับงานส่งอาหาร โดยเล่าว่าได้ส่งอาหารที่ สน.สำราญราษฎร์ ประมาณ 21.30-21.40 น. แล้วรีบกลับบ้านที่อ้อมใหญ่ แต่ไม่ทัน จึงเจอด่านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ด่านอ้อมน้อย โดยได้ถามตนเองว่าไปไหน จึงตอบว่ากำลังกลับบ้านเพราะเพิ่งเลิกงาน เจ้าหน้าที่จึงถามต่อว่าทำงานที่ไหน จึงตอบว่าส่งอาหารอยู่แถวกรุงเทพฯ ชั้นใน และเป็นแอปดีลิเวอรีของลาลามูฟ และไลน์แมน ทำให้กลับบ้านไม่ทัน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอดูบัตรพนักงาน ตนเองจึงแจ้งไปว่าแอปไดรเวอร์ไม่มีบัตรพนักงาน มีแต่หน้าแอปใช้แทน คือ มีสถานะเป็นบัตรประจำตัว เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าหากคุณขนส่งอาหารต้องมีใบอนุญาต ถ้าไม่มีคือมีความผิด ทำให้ตนเองนั้นถูกดำเนินคดีและต้องนอนห้องขัง
ทั้งนี้ ผลการตัดสินคือมีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท แต่ศาลพิเคราะห์แล้วให้ลงโทษแค่ปรับ 5,000 บาท โดยหากมีความผิดซ้ำอีกจะถูกจำคุกทันที และผลจากการนอนห้องขังไป 1 คืน ทำให้ลดค่าปรับไป 500 บาท คงเหลือจ่าย 4,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ตนเองอยากฝากทิ้งท้ายว่า เช้าวันเกิดเหตุ ก่อนวิ่งงานได้ดูข่าวที่รัฐมนตรีวิษณุแถลง ว่าแกร็บไลน์แมนส่งอาหารได้ ได้รับการยกเว้น แต่ในเอกสารที่ส่งเป็นทางการมันมีคำว่าต้องมีเอกสารรับรองด้วย จึงวอนให้สื่อสารตรงกัน อย่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะคลิปมีอย่างนึง แถลงการณ์มีอย่างนึง กฎหมายมีอย่างนึง ความรู้ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่มีอย่างนึง เจ้าหน้าที่หลายคนยังไม่รู้จักว่าแอปไดร์เวอร์คืออะไร ยังไม่รู่ว่า LALAMOVE และ LINEMAN คือบริษัทร่วมกัน ระบุว่าตนเองโกหกใส่เสื้อลาลามูฟ และบอกวิ่งไลน์แมน วอนเร่งหาทางแก้ปัญหาด้วย