วันนี้ (12 มี.ค.) รองศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล ออกสาส์น ระบุข้อความว่า ตามที่มีการระบาดของโรค COVID-19 ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 ขณะนี้มีจานวนผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง เพิ่มขึ้นทั่วโลก และในประเทศไทย มีผลให้พยาบาลซึ่งเป็นบุคลากรสายสุขภาพด่านหน้า ที่ต้องปฏิบัติภารกิจในการคัดกรอง และให้การพยาบาลผู้ป่วยโดยตรง จึงอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงต่อการติดโรค จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ด้วยความห่วงใยในผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ที่เจ็บป่วยทั้งในรายที่ทราบและไม่ทราบว่ามีการติดเชื้อจากไวรัสนี้หรือไม่ สภาการพยาบาลขอให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ทุกท่าน ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมาตรฐานการปฏิบัติเพื่อการป้องกันหรือยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อโรค อย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักการที่สำคัญ คือ
1) การดูแลผู้ป่วยทุกราย ให้ใช้วิธีการป้องกันแบบมาตรฐาน โดยถือว่าผู้ป่วยทุกรายอาจเป็นพาหะของเชื้อไวรัสนี้ เมื่อต้องให้การพยาบาลผู้ป่วยให้สวมใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยสบู่ หรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังให้การพยาบาลทุกครั้ง และในรายที่คาดว่าอาจต้องสัมผัสกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือบาดแผลของผู้ป่วยให้ สวมถุงมือในการให้การพยาบาลด้วยทุกครั้ง
2) การดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรือสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสนี้ ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อในการปฏิบัติการพยาบาลที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ซึ่งได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัย เสื้อคลุม ถุงมือ และล้างมือด้วยสบู่หรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ก่อน และหลังให้การพยาบาลทุกครั้ง และในกรณีที่คาดว่าอาจต้องสัมผัสกับละอองฝอยของน้าลาย เสมหะ หรือเลือด เช่น การดูด เสมหะหรือการช่วยแพทย์ใส่ท่อทางเดินหายใจให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและใบหน้าด้วย
3) การให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่ประชาชนผู้มารับบริการ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในสุขภาพ ด้วยการล้างมือฟอกสบู่หรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์เพื่อทาลายและลดจุลชีพที่อยู่บนมือ เพื่อลดและป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อโรค สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการเจ็บป่วยทางระบบทางเดินหายใจ ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ ไอ จาม และผู้ที่มีอาการคล้ายหวัด ไม่นามือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้า รับประทานอาหารที่ปรุงสุก และใช้ช้อนกลาง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และงดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงมีการระบาด ของเชื้อไวรัสนี้
ในนามของคณะกรรมการสภาการพยาบาลและผู้บริหาร จึงขอส่งความห่วงใย ความปรารถนาดี และกาลังใจมา ให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ทุกท่านและขอขอบคุณน้องๆ ทุกคนที่ได้ทุ่มเทเสียสละในการปฏิบัติ หน้าที่ในสถานการณ์นี้มาอย่างดียิ่ง ทั้งนี้ เพื่อช่วยกันนำพาประเทศชาติของเราให้ผ่านวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี