ผู้บริหารการบินไทย เผย เหตุคลิปหญิงจีนโวยวายจนลูกเรือเข้าระงับเหตุ เผย รับแจ้งว่าสนามบินปลายทาง “เซี่ยงไฮ้ ผู่ตง” ของจีน ตรวจคัดกรองผู้โดยสารประเทศกลุ่มเสี่ยงละเอียดยิบวันแรก ไม่ตรวจไม่ให้ลงจากเครื่อง กว่าจะถึงคิวต้องรอ 7 ชั่วโมง ยันวันนั้นกล่อมให้เจ้าตัวอยู่ในความสงบแล้ว
วันนี้ (8 มี.ค.) จากกรณีที่มีวิดีโอคลิปในเว็บไซต์ยูทูป เหตุการณ์ที่ลูกเรือกำลังเข้าระงับเหตุหญิงชาวจีนรายหนึ่ง บนเที่ยวบินของสายการบินไทย หลังเกิดความตึงเครียดขณะรอออกจากเครื่องนานกว่า 7 ชั่วโมง โวยวายและจงใจไอใส่หน้าพนักงานต้อนรับหญิง เพื่อกดดันให้ลูกเรือเปิดประตูเครื่องบิน และให้เธอออกจากเครื่องบิน โดยระบุว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง (PVG) นครหลวงเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่ MGR Online ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : การบินไทยวุ่น! หญิงจีนโวยวาย-ไอ ใส่ลูกเรือ ไม่พอใจรอลงเครื่องที่เซี่ยงไฮ้นานกว่า 7 ชั่วโมง
ล่าสุด เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค. บนเที่ยวบินที่ TG664 เส้นทางกรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ ขณะที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง การบินไทยได้รับแจ้งว่าในวันดังกล่าวเป็นวันแรกที่ที่สนามบินมีมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ อิตาลี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ อิหร่าน
โดยเครื่องบินทุกลำที่มีผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว หากเดินทางเข้ามา หรือต่อเครื่องในเซี่ยงไฮ้ จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น โดยเรียงลำดับจากเวลาที่เครื่องบินลงจอด สายการบินที่ยังไม่ได้ตรวจ จะไม่อนุญาตให้เปิดประตูเครื่องบินให้ผู้โดยสารลงจากเครื่อง จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมาดำเนินการ นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองในแต่ละลำมีความเข้มข้นขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเที่ยวบินของการบินไทยจำเป็นต้องรอประมาณ 7 ชั่วโมงกว่าที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงคิวตรวจ
จากการที่ผู้โดยสารต้องรอการตรวจคัดกรองเป็นเวลานาน จึงมีผู้โดยสารรายหนึ่งไม่พอใจอย่างมาก และไอใส่หน้าพนักงานต้อนรับฯ หญิง ซึ่งพนักงานต้อนรับฯ ได้ช่วยกันระงับเหตุและพยายามอธิบายให้ผู้โดยสารทราบถึงสถานการณ์ และขอให้อยู่ในความสงบ ซึ่งในเวลาต่อมาผู้โดยสารคนดังกล่าวก็อยู่ในความสงบลงและยอมนั่งลงกับที่เพื่อรอการตรวจคัดกรองต่อไป