โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ออกแถลงการณ์ ขอความชัดเจนจากภาครัฐใน 3 หัวข้อ เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 ที่อาจจะถูกยกระดับไปสู่เฟส 3
จากกรณีไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดอย่างหนักทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ประกอบกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทย อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากต่างกักตุนหน้ากากอนามัย นำมาขายในราคาที่สูงอย่างมากทำให้เกิดปัญหาหน้ากากขาดแคลนแม้กระทั้ง หมอหรือพยาบาลตามโรงพยาบาลยังมีใช้ไม่พอ โรงพยาบาลบางแห่งหน้ากากอนามัยหมดแล้วก็มี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. เพจ “โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ” จ.ปทุมธานี ได้ออกประกาศ เรื่อง กรณีการบริหารจัดการการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีใจความว่า
“สืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ด้วยโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย สังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมรับการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในระยะที่ 3 ซึ่งจะมีผู้ป่วยเข้ามารับบริการจำนวนมาก ทั้งนี้ในการบริหารจัดการระดับประเทศพบว่าไม่มีการบูรณาการอย่างชัดเจน ในกรณีดังต่อไปนี้
1. การบริหารห่วงโซ่อุปทาน (supply chain management) โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัยชนิด N95 หน้กากอนามัย ชุดป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลในการดูแลผู้ป่วย เป็นต้น โดยในปัจจุบันโรงพยาบาลไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวได้ นำมาซึ่งการร้องเรียนและการฟ้องร้องต่อบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งส่งผลต่อการดูแลผู้ป่วยในที่สุด
2. โรงพยาบาลขอเรียกร้องนโยบายการดูแลบุคลากรทางการแพทย์และผู้ดูแลผู้ป่วยในกรณีที่ ติดเชื้อและทุพพลภาพถาวร หรือเสียชีวิต เพิ่มเติมจากสภาวการณ์ปกติ
3. การสื่อสารในระดับประเทศ ทั้งในเรื่องข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลงานวิจัย หรือข้อมูลอื่นๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบต่อโรงพยาบาลในการสื่อสารต่อไปยังบุคลากรและผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนต่อข้อมูลนั้นๆ ได้”