"สามารถ" วอนผู้อภิปรายฝ่ายค้านอย่าบูลลี่รัฐบาล สร้างความสับสนแตกแยกในสังคม

วันนี้ (27 ก.พ.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม และผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะทีมตอบโต้อภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา กล่าวว่า ตนขอให้ผู้อภิปรายพรรคฝ่ายค้านพูดความจริงอย่าใส่ร้ายป้ายสีหรือทำหลักฐานข้อมูลเท็จเพราะที่ทำขึ้นมานั้นใครก็ทำได้ การโจมตีรัฐบาลว่ามีการทำ IO หรือการให้ข้อมูลในเฟซบุ๊กเพื่อที่จะไปทำให้คนอื่นด้อยค่าหรือไปบูลลี่ใส่คนอื่น เช่น กลุ่มนักเรียนนักศึกษาหรือคนเห็นต่างกับรัฐบาลนั้นไม่เป็นความจริง เป็นข้อมูลเท็จบิดเบือนอย่างสิ้นเชิง ยกกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของท่านกับมีกลุ่มคนเข้ามาบูลลี่โจมตี นายกฯ เป็นอย่างมาก รวมทั้ง เฟซบุ๊กพรรคร่วมรัฐอื่นๆ เช่น พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกคนเข้าบูลลี่เช่นกัน

"ผมได้ฟังอภิปรายเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้วใช้สติพิจารณาอย่างรอบด้านครบถ้วนเห็นผู้อภิปรายพูดออกมานั้น น่าจะเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องโจมตีการทำ IO ดีเยี่ยมหรือเป็นคนทำบูลลี่ให้ผู้อื่นด้อยค่าเหมือนเอาชีวิตตนเองออกมาพูด แต่แค่เปลี่ยนตัวละครกลับด้านจากฝ่ายค้านที่ไม่ชอบรัฐบาลกลายมาเป็นรัฐบาลที่ให้ร้ายผู้อื่น"

นายสามารถ กล่าวต่อว่า สำหรับคลิปเสียงหรือข้อความทางแอพฯไลน์ สามารถดัดแปลงทำขึ้นมาได้และศาลไม่รับฟังพยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบหรือดัดแปลง จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจความรู้สึกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกคนเห็นต่างไม่เชื่อว่ารัฐบาลนี้จริงใจในการแก้ปัญหา โดยตนได้รับโทรศัพท์จากประชาชน ทั้ง ภาคอีสาน ภาคเหนือ และ ภาคใต้ จำนวนมากต่างให้กำลังใจ นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปแล้วว่าไม่รู้เรื่องกับการทำ IO ที่ฝ่ายค้านอภิปราย ขอวิงวอนฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจขอให้พูดความจริง ข้อมูลจริง อย่าบิดเบือนจนทำให้สังคมสับสน เพราะทุกวันนี้ตนเป็นห่วงการแตกแยกในสังคม

นายสามารถ กล่าวต่อว่า เมื่อก่อนปี 49 , 53 และ 57 แบ่งแยกความคิดแบ่งสี แบ่งฝ่ายแบ่งความคิดซ้ายกับขวา แต่ปัจจุบันตอนนี้แนวความคิดกับถูกดัดแปลงเปลี่ยนแปลงให้เป็นความขัดแย้ง แบบบนกับล่าง ดังนั้นแนวความคิดที่กรรมการบริหารพรรคที่เพิ่งถูกยุบไป แล้วบอกเกลียดการรัฐประหาร ต่อต้านการรัฐประหาร แต่กับกระทำการเพื่อให้เกิดรัฐประหารแทน ตนจึงเป็นห่วงไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายความแตกแยกทางความคิด และ ทำให้เกิดความวุ่นวายทางสังคม