หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ตามหาตัวชายชาวจีนที่เข้าตรวจในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และพบว่ามีไข้สูง 37 องศา ก่อนจะเดินหายจากโรงพยาบาล ทำให้วุ่นตามหากันทั้งจังหวัด ล่าสุดพบตัวและนำไปตรวจโรค พบว่ามีผลเป็นลบไม่พบเชื้อ
จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวตรัง ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และโรงพยาบาลตรัง ว่าให้นำกำลังตำรวจมาติดตามชายชาวจีนซึ่งสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยชาวจีนคนหนึ่งมีอาการไข้ แล้วช่วงค่ำเข้าไปตรวจรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งพยาบาลได้ทำการวัดอุณหภูมิคนไข้รายนี้ พบว่ามีไข้สูง 37 องศา จึงแจ้งให้หมอทราบ โดยนำคนไข้ให้ไปนั่งในห้องเล็กๆ นานนับชั่วโมง
จนชายชาวจีนนั่งรอไม่ได้เพราะไม่มีหมอมาตรวจ จึงเดินทางออกมาจากโรงพยาบาลเอกชน เมื่อพยาบาลทราบข่าวจึงตกใจได้รีบแจ้งกับหมอ ก่อนที่จะประสานกับโรงพยาบาลตรัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกติดตามชายชาวจีนคนดังกล่าว จึงทำให้เกิดความโกลาหลทั้งเมืองตรัง เพราะทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ พยาบาล มีเพียงภาพถ่ายที่ใช้ออกติดตามสืบหาชายชาวจีนรายนี้ไปตามสถานที่ต่างๆ
กระทั่งต่อมาพบว่าชายชาวจีนรายนี้ได้ไปนั่งรับประทานอาหารในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใจกลางเมืองตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องรีบกักตัวชายชาวจีนไว้ แล้วให้ พญ.จิรวรรณ อารยะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง พร้อมด้วย นพ.ไกรสร โตทับเที่ยง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง รีบเดินทางมารับคนไข้ชาวจีน พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลตรังทันที
ล่าสุด วันนี้ (27 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เพจ “@Trang ที่นี่จังหวัดตรัง” ได้นำโพสต์จากโรงพยาบาลตรัง เรื่อง ผลการตรวจเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ ในชาวจีนที่อยู่ในข่ายสงสัย โดยได้ระบุข้อความว่า
“สืบเนื่องจากจังหวัดตรังมีบุคคลชาวจีนที่อยู่ในข่ายสงสัยตามนิยามของกระทรวงสาธารณสุข ว่าอาจเป็นผู้ป่วยโรคเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) หลังจากเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ป่วยได้รับการดูแลในห้องแยกโรค (Negative Pressure Room) ของโรงพยาบาลตรัง และได้ตรวจยืนยันอย่างเร่งด่วน ผลการตรวจตามวิธีการมาตรฐาน ไม่มีการติดเชื้อ ไม่พบสารพันธุกรรรมของเชื้อโคโรนา ไวรัสสายพันธุ์ใหม่”