วันนี้ (15 ก.พ.) ณ หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานในพิธีมอบพันธุ์กล้าไม้ ในโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดมลพิษจากฝุ่นละออง 101,010 ต้น ตั้งเป้าภายในปี 2563 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ทั่วจังหวัดนนทบุรี แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยกรมป่าไม้ได้จัดเตรียมกล้าไม้พันธุ์ดีกว่า 1,000 ต้น เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนจังหวัดนนทบุรี โดยมี นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. เข้าร่วมฯ
นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง โดยเมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไข ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ตามที่ ทส.ได้เสนอ เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในภาพรวมของประเทศและพื้นที่วิกฤติโดยบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันทุกภาคส่วนด้วย 3 มาตรการ คือ 1.เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและในช่วงวิกฤต ช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.) ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Single Command ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดมีอำนาจในการสั่งการแก้ปัญหาให้ทันท่วงที 2.ป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง ทั้งจากยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง การก่อสร้างและผังเมือง โรงงานอุตสาหกรรมและครัวเรือน และ 3.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ การพัฒนาระบบคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น เพิ่มประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการตรวจวัด พัฒนาระบบฐานข้อมูลและผลกระทบต่อสุขภาพ ตลอดจนเพิ่มเครือข่ายติดตามตรวจสอบให้ครอบคลุม 77 จังหวัด ภายในปี 2567
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ยังคงเป็นภารกิจของ ทส. และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย เพื่อใช้เป็นปอดของเมือง ให้ต้นไม้ดักจับฝุ่นและเป็นตัวกรองคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่กระทรวงฯ เร่งดำเนินการ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ 55 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ประเทศ
ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า ทส. ได้ร่วมกับจังหวัดนนทบุรีได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยออกมาตรการตรวจควันดำจากยานพาหนะที่ทำให้เกิดมลพิษ ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม ห้ามการเผาในที่โล่งแจ้ง ควบคุมการก่อสร้าง ตลอดจนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดมลพิษจากฝุ่นละออง ภายใต้โครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดมลพิษจากฝุ่นละออง (101,010 ต้น นนทบุรี) ซึ่งเปิดตัวโครงการครั้งแรกในวันนี้
"โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคเอกชน ร่วมใจกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา โรงพยาบาล ที่สาธารณะ ศาสนสถานและอาคารบ้านเรือน เพื่อช่วยลดผลกระทบฝุ่น PM2.5 สร้างพื้นที่สีเขียวให้กับจังหวัดนนทบุรี สอดคล้องกับโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศและคืนสุขภาพที่ดีให้ประชาชน"นายจตุพร กล่าว
ส่วน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้ร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองจิ๋ว PM2.5 มาตั้งแต่ในช่วงเดือนพ.ค.62 เป็นต้นมา ในโครงการ “ร่วมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน” พร้อมทั้งร่วมลงทะเบียน ในโครงการผ่านเว็บไซด์ของกรมป่าไม้ https://plant.forest.go.th
"ขณะนี้ มีประชาชนปลูกต้นไม้ทั่วประเทศไปแล้วมากกว่า 12,732,401 ต้น สำหรับในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีมีผู้ร่วมลงทะเบียนปลูกต้นไม้ในโครงการนี้ จำนวน 84,222 ต้น ซึ่งทางกรมป่าไม้ คาดว่ากิจกรรมในวันนี้ จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ชาวจังหวัดนนทบุรีตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและหันมาร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา โดยการปลูกต้นไม้ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเป็นการช่วยลดปัญหาการเกิดฝุ่นละอองจิ๋ว PM 2.5 "
นายอรรถพล กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ประชาชนที่มีความต้องการที่จะปลูกต้นไม้ก็สามารถขอรับกล้าไม้ได้ที่หน่วยงานเพาะชำกล้าไม้ของกรมป่าไม้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ส่วนเพาะชำกล้าไม้ โทรศัพท์ 02 5614292 ต่อ 5551 และสำหรับกิจกรรมในวันนี้ กรมป่าไม้ ได้จัดเตรียมกล้าไม้จำนวน 1,000 ต้น เช่น ต้นหูกวาง ทองอุไร นนทรี แคนา เป็นต้น มาสำหรับแจกจ่ายใหกับผู้ที่เข้าร่วมงานได้นำกลับไปปลูก และกรมป่าไม้ได้จัดเจ้าหน้าที่รุกขกร (หมอต้นไม้) เพื่อตรวจรักษาต้นไม้ พร้อมทั้งสาธิตวิธีการตัดแต่งกิ่งต้นไม้ ตามหลักหลักวิชาการภายในบริเวณพื้นที่จัดงาน