“สามารถ” ประสาน ส.ส.พลังประชารัฐส่งเรื่องไปยังกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ให้เรียกธนาคารออมสินช่วยเหลือครอบครัวชาวบ้านประชาชนเหยื่อกราดยิงโคราชเหมือนกับเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องชำระหนี้ทั้งหมดเพราะเป็นผู้บริสุทธิ์
สืบเนื่องจาก ธนาคารออมสิน ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนให้แก่ลูกค้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่โคราช โดยแบ่งออกเป็น 3 กรณี ได้แก่ 1. กรณีเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่และเป็นลูกค้าของธนาคาร ยกหนี้ให้ทั้งหมด พร้อมมอบเงินจำนวน 100,000 บาทให้แก่ครอบครัว เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น 2. กรณีเสียชีวิต ประชาชนทั่วไป ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และ 3. กรณีบาดเจ็บสาหัส ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ต่อปี คงที่ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งเพื่อหลักเสมอภาคและเท่าเทียม ควรต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
วันนี้ (10 ก.พ.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม (ผช.รมว.ยธ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ ประจำสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนเอง พร้อมด้วย นายพยม พรหมเพชร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดสงขลา เขต 3 และ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดชัยภูมิ เขต 3 ซึ่งทั้ง 2 ท่านอยู่ในกรรมาธิการคณะนี้ โดยมีแนวคิดร่วมกันว่าการประชุมคณะกรรมาธิการครั้งต่อไปจะนำเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าหารือเพราะมีชาวบ้านร้องเรียนเข้ามา โดยให้ท่านประธานคณะกรรมาธิการเชิญตัวแทนธนาคารออมสินเข้ามาชี้แจงและให้เรียกร้องให้มีการยกหนี้ให้แก่ประชาชนผู้เสียชีวิต ไม่ใช่แค่ลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารออมสินเองได้มีการเสนอลดหนี้สินให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารแล้ว แต่พวกตนเห็นว่าควรจะต้องลดหนี้ให้แก่ประชาชนผู้เสียชีวิตด้วยเนื่องจากเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เพียงไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ดังนั้นจึงเสนอให้มีมาตรการช่วยเหลือเช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่
นายสามารถกล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ได้กำชับให้สมาชิกศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐให้ลงช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งทางศูนย์ร้องทุกข์ของพรรคพลังประชารัฐได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าอยากให้หน่วยงานรัฐมีมาตรการปกป้องคุ้มครองประชาชน ให้มีการถอดบทเรียนและเน้นให้มีการฝึกยุทธวิธีเผชิญเหตุเพื่อปกป้องการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจสิทธิตามเงื่อนไขของกฎหมายที่ประชาชนควรจะได้รับการช่วยเหลือดูแลในอำนาจหน้าที่ของแต่ละกระทรวง ซึ่งทั้งนี้ครอบครัวผู้สูญเสียคือผู้เสียสละ ที่ทุกคนควรต้องให้การจดจำและช่วยเหลือเยียวยา นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการเอาเปรียบหรือโกงกัน การเป็นหนี้กัน ฉะนั้น ตนจึงอยากให้กำลังใจรัฐบาลในการปราบปรามการฉ้อโกงให้หมดไปจากสังคมและสร้างความเป็นธรรมแก่ประชาชนคนจน โดยรัฐบาลนี้ภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความตั้งใจแก้ปัญหาความเดือดร้อนในทุกมิติอยู่แล้ว
นายสามารถกล่าวต่อว่า ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์แสดงออกด้วยท่ามินิฮาร์ตนั้นเป็นการให้กำลังใจแก่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ที่ให้การต้อนรับและไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสำรวมหรือไม่ เพราะนายกฯ เป็นคนของประชาชน มีความตั้งใจช่วยเหลือและต้องการให้กำลังใจทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บ หรือแม้แต่ครอบครัวผู้เสียชีวิต นายกฯ จึงได้ลงพื้นที่พร้อมกับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนที่ฝ่ายค้านมาโจมตีเรื่องดังกล่าวเพื่อจะดิสเครดิตรัฐบาลนั้น ตนคิดว่าควรดูถึงความเหมาะสมหรือไม่ ไม่ควรจะนำมาโยงเป็นเรื่องการเมือง และตนขอความร่วมมือไปยังฝ่ายค้าน ขอให้มาร่วมมือกันช่วยให้ผ่านวิกฤตเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน อย่าเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาใช้โจมตีกัน ตนอยากเห็นฝ่ายค้านช่วยหยิบยกปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาช่วยกันแก้ปัญหาในสภาฯ จะมีประโยชน์มากกว่า เช่น การช่วยผลักดันให้กรรมาธิการการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติมาร่วมกันช่วยยกภาระหนี้ให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ แบบนี้จะได้ประโยชน์มากกว่า ซึ่งตนและ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐจะไม่ขัดและไม่หวงไว้เป็นผลงานของพวกตนเด็ดขาด เพราะอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่พี่น้องประชาชน ประเทศชาติได้ประโยชน์เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐและรัฐบาลนี้อยู่แล้ว