ฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ในการให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในปฏิบัติการจับคนร้าย ที่ จ.นครราชสีมา จะได้ลุล่วงด้วยการไม่เผยแพร่แผนปฏิบัติการ ไม่ถ่ายทอดสดการปฏิบัติ ระมัดระวังการสัมภาษณ์ผู้ติดในห้างเทอมินัล21 ซึ่งอาจจะยังตกอยู่ในอันตรายและมีความเสี่ยง
วันนี้ (8 ก.พ.) จากกรณี จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา สังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ก่อเหตุ ยิ่ง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส และ นางอนงค์ มิตรจันทร์ เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนจะขับรถจี๊ปฮัมวี่แบบทหารหลบหนีเข้าไปในค่าย พร้อมกับก่อเหตุปล้นเอาอาวุธปืนสงครามแบบเอชเค. 33 พร้อมเครื่องกระสุนอีก 40 นัด ในคลังกระสุน และใช้อาวุธปืนยิงพลทหารที่ดูแลคลังกระสุนเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย
ก่อนหนีเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินัล 21 สาขานครราชสีมา ระหว่างทางได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงชาวบ้านผู้บริสุทธ์เสียชีวิตมากว่า 10 รายตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผย แนวปฏิบัติของสื่อมวลชนในสถานการณ์วิกฤต เน้นเฉพาะการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนในสถานการณ์ก่อวินาศกรรมหรือก่อการร้าย
ผู้ปฏิบัติงานข่าวต้องไม่นำเสนอข่าวหรือภาพข่าวที่เป็นการเปิดเผย ข้อมูล รายละเอียดทางยุทธศาสตร์ หรือยุทธวิธีที่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
ผู้ปฏิบัติงานข่าวต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างทางการเมือง ศาสนา สังคม วัฒนธรรม และภาษาถิ่น ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์
ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงระมัดระวังการนำเสนอประเด็น ข้อเท็จจริงหรือภาษาที่กระตุ้นให้สถานการณ์ขยายความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงหลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวและการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับต้นเหตุ แรงจูงใจ องค์ประกอบในการก่อวินาศกรรมหรือการก่อการร้าย รวมถึงการขยายขอบเขตในการก่อวินาศกรรมหรือการก่อการร้ายโดยปราศจากข้อมูลหรือการยืนยันจากฝ่ายความมั่นคงของรัฐ อันอาจกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนเป็นเหตุให้เกิดความตื่นตระหนกของประชาชน หรือกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ